เลขาฯ ก.ล.ต.ยอมรับ คำสั่งยึดทรัพย์ TPIPL แทนค่าปรับ 6.9 พันล้านมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน เพราะธุรกิจยังดำเนินกิจการอยู่ ไม่รู้จะนำกฎหมายฉบับไหนมาบังคับใช้ นัดถกเครียด ตลท. ก่อนชี้แจงข้อมูลให้นักลงทุน
วันนี้ (15 ส.ค.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ศาลอาญาได้นัดหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และ ก.ล.ต.ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ เพื่อจะขอข้อมูลประกอบการพิจารณาในการยึดทรัพย์แทนค่าปรับ 6.9 พันล้านบาทจากบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ตามที่ศาลอาญาได้มีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่บังคับคดียึดทรัพย์ TPIPL ไปแล้ว
“การยึดที่มีวงเงินเยอะขนาดนี้ และเป็นการพยายามเข้าไปบังคับคดีในขณะที่บริษัทยังดำเนินธุรกิจต่อเนื่องอยู่ คงมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน มีประเด็นทางเทคนิคที่ต้องพิจารณาปรึกษาหารือกัน เพราะฉะนั้นผมคิดว่าขณะนี้คงยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ากระบวนการในการดำเนินการจะเป็นอย่างไร ต้องรอดูผลในวันนี้”
พร้อมกันนี้ คาดว่าจะมีการหารือกันในประเด็นของข้อกฎหมายที่จะนำมาใช้บังคับกับบริษัทจำกัดที่ถูกยึดทรัพย์ในขณะที่ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ว่าจะต้องนำกฎหมายใดมาบังคับใช้
“ถ้าจะมองเลยไปถึงกระบวนการบังคับคดี ผมยังนึกไม่ออกว่าการบังคับคดีบริษัทจำกัดทั่วไปซึ่งมีการ Operate และเปิดทำการค้าต่อเนื่อง จะต้องดำเนินการอย่างไร และมีบทคุ้มครองคนที่เกี่ยวข้องอย่างไร จำได้ว่ากรณีแบงก์พาณิชย์จะมีบทที่เขียนในกฎหมายให้ทางการตั้งคณะกรรมการเข้าไปควบคุมกิจการและบริหารแบงก์นั้นได้ชั่วคราว แต่กรณีบริษัททั่วไปไม่แน่ใจว่า พ.ร.บ.มหาชน หรือกฎหมายอื่นจะมีข้อคุ้มครอง หรือกฎระเบียบอย่างไร คงต้องคุยให้จบในวันนี้ด้วย”
เลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าวว่า ก่อนจะให้ข้อมูลดังกล่าวกับศาล คาดว่าสัปดาห์หน้า ก.ล.ต.จะนัดหารือกันเป็นการภายใน เพื่อประเมินปัญหาและโอกาสที่จะเป็นไปได้ในเหตุการณ์ที่จะออกมาในรูปแบบต่างๆ แต่ในระหว่างนี้ ก.ล.ต.ได้ประสานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบข้อมูลอย่างถูกต้องและเต็มที่เท่าที่จะทำได้