แบงก์กรุงเทพมุ่งขยายฐานบัตรเดบิตตั้งเป้าปีนี้ให้อยู่ในระดับมากกว่า 10 ล้านใบ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านใบ พร้อมเร่งโปรโมทสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้า เพื่อกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตร
นายสุเมธ ทิพยรัต ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนฐานบัตรเดบิตในปีนี้ให้อยู่ที่กว่า 10 ล้านใบ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านใบ ซึ่งปัจจุบันมีฐานบัตรดังกล่าวอยู่ที่กว่า 9 ล้านใบ หรือเพิ่มขึ้นมาแล้วโดยมีการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 200,000 ใบ ซึ่งเป็นลูกค้าในกรุงเทพกว่า 30% ที่เหลือเป็นลูกค้าต่างจังหวัด โดยธนาคารจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักศึกษาและกลุ่มคนที่เริ่มทำงาน รวมถึงลูกค้าทั่วไป เนื่องจากลูกค้ากลุ่มอื่นจะเป็นกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต สำหรับบัตรเดบิตของทั้งระบบอยู่ที่ 20 ล้านใบ โดยธนาคารกรุงเทพมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1
ทั้งนี้ ธนาคารจะมีการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตให้มากขึ้นด้วยการส่งเสริมทางการตลาดวิธีต่างๆ เนื่องจากตลาดในประเทศไทยยังมีการใช้จ่ายผ่านบัตเดบิตที่น้อยมากหรือไม่ถึง 10% เทียบจากยอดการใช้จ่ายทั้งหมด และ 90% นิยมใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม ดังนั้น ธนาคารจึงพยายามที่จะกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการให้ความรู้กับลูกค้าว่าลูกค้าใช้บริการผ่านบัตรเดบิตได้มากกว่าการใช้ถอนเงินจากเอทีเอ็ม
"พฤติกรรมคนไทยไม่ค่อยเปลี่ยน เพราะลูกค้าไม่รู้ว่าบัตรใช้อะไรได้บ้าง ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่แบงก์ต้องทำก็คือการใช้ความรู้กับลูกค้า โดยแบงก์จะต้องให้ความรู้กับพนักงานก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อจะได้บอกถึงประโยชน์ให้กับลูกค้าได้ตรงจุด ส่วนเรื่องของการป้องกันความเสี่ยงนั้น เร็วๆนี้ก็จะมีอะไรใหม่ ๆ มาช่วยเพิ่มความมั่นใจส่วนงบการตลาดในปีนี้ธนาคารตั้งไว้จำนวนหลาย 10 ล้านบาท"
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันธนาคารมีบัตรเอทีเอ็มอยู่ 4 ล้านใบ และในอนาคตธนาคารมีแผนที่จะให้ลูกค้าบัตรเอทีเอ็มเปลี่ยนมาใช้เป็นบัตรเดบิตแทน ด้วยการจัดแคมเปญต่าง ๆ มาเป็นตัวกระตุ้น
นายสุเมธ ทิพยรัต ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนฐานบัตรเดบิตในปีนี้ให้อยู่ที่กว่า 10 ล้านใบ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านใบ ซึ่งปัจจุบันมีฐานบัตรดังกล่าวอยู่ที่กว่า 9 ล้านใบ หรือเพิ่มขึ้นมาแล้วโดยมีการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 200,000 ใบ ซึ่งเป็นลูกค้าในกรุงเทพกว่า 30% ที่เหลือเป็นลูกค้าต่างจังหวัด โดยธนาคารจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักศึกษาและกลุ่มคนที่เริ่มทำงาน รวมถึงลูกค้าทั่วไป เนื่องจากลูกค้ากลุ่มอื่นจะเป็นกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต สำหรับบัตรเดบิตของทั้งระบบอยู่ที่ 20 ล้านใบ โดยธนาคารกรุงเทพมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1
ทั้งนี้ ธนาคารจะมีการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตให้มากขึ้นด้วยการส่งเสริมทางการตลาดวิธีต่างๆ เนื่องจากตลาดในประเทศไทยยังมีการใช้จ่ายผ่านบัตเดบิตที่น้อยมากหรือไม่ถึง 10% เทียบจากยอดการใช้จ่ายทั้งหมด และ 90% นิยมใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม ดังนั้น ธนาคารจึงพยายามที่จะกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการให้ความรู้กับลูกค้าว่าลูกค้าใช้บริการผ่านบัตรเดบิตได้มากกว่าการใช้ถอนเงินจากเอทีเอ็ม
"พฤติกรรมคนไทยไม่ค่อยเปลี่ยน เพราะลูกค้าไม่รู้ว่าบัตรใช้อะไรได้บ้าง ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่แบงก์ต้องทำก็คือการใช้ความรู้กับลูกค้า โดยแบงก์จะต้องให้ความรู้กับพนักงานก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อจะได้บอกถึงประโยชน์ให้กับลูกค้าได้ตรงจุด ส่วนเรื่องของการป้องกันความเสี่ยงนั้น เร็วๆนี้ก็จะมีอะไรใหม่ ๆ มาช่วยเพิ่มความมั่นใจส่วนงบการตลาดในปีนี้ธนาคารตั้งไว้จำนวนหลาย 10 ล้านบาท"
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันธนาคารมีบัตรเอทีเอ็มอยู่ 4 ล้านใบ และในอนาคตธนาคารมีแผนที่จะให้ลูกค้าบัตรเอทีเอ็มเปลี่ยนมาใช้เป็นบัตรเดบิตแทน ด้วยการจัดแคมเปญต่าง ๆ มาเป็นตัวกระตุ้น
