xs
xsm
sm
md
lg

ทีมศก. ปชป.ชี้การขึ้น ดบ.ไม่แก้เงินเฟ้อ แนะลดส่วนต่าง ดบ.เงินฝาก-กู้ ให้แคบลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทีมศก. ปชป. เรียกร้อง ธปท.อย่าเร่งแก้ปัญหาเงินเฟ้อโดยการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ เชื่อแก้ไม่ถูกจุด เพราะกระทบการลงทุน และเพิ่มหนี้เสียในระบบ แนะลด Spread เพราะไทยมีส่วนต่างมากกว่าประเทศอื่น

วันนี้ (13 ก.ค.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพฯ เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะทีมเศรษฐกิจ ออกมาร้องขอให้คณะกรรมการนโยบายการเงินของ ธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 16 ก.ค.นี้ ให้ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (R/P) ซึ่งถือเป็นสัญญาณสำคัญอันจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายอรรถวิชช์ เชื่อว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะไม่ช่วยแก้ปัญหาเงินเฟ้อของไทยในสถานการณ์ปัจจุบันเนื่องจากขณะนี้เงินเฟ้อของไทยมีลักษณะไม่ปกติ กล่าวคือเป็นสภาวะข้าวของขึ้นราคา ไม่ใช่สภาวะที่มีเงินมาก หรือความต้องการซื้อสูง สภาวะของแพงก็ยังคงมีต่อไป เพราะปัญหาหลักอยู่ที่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"ตรงจุดนี้ รัฐบาลต้องเร่งเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องพลังงานทดแทน วันนี้ของแพงขึ้นแต่รายได้เท่าเดิม เชื่อหากขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้จะกระทบการลงทุนแน่นอน และที่สำคัญจะเป็นการเพิ่มหนี้เสียในระบบด้วย เนื่องจากในความเป็นจริงธุรกิจทำได้ลำบากขึ้นและยอดขายลดลง แต่ต้องมาจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มแบบนี้ผู้ประกอบธุรกิจแย่แน่

นายอรรถวิชช์ฯ เห็นว่า หาก ธปท. ยืนยันต้องการดูดซับสภาพคล่องในระบบในสภาวะเงินเฟ้อที่ผิดปกตินี้ จึงขอให้ ธปท.พิจารณาเรื่อง Spread (ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมกับดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์) ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมี Spread ที่มากกว่าประเทศอื่นๆ เชื่อการลด Spread แบบคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ แต่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะไม่กระทบการลงทุน ส่วนความกังวลที่ว่า หนี้เสียในระบบมีมาก ดังนั้น Spread ควรกว้างเพื่อให้ธนาคารมีกำไรมาชดเชยส่วนขาดทุนนั้น

สำหรับหนี้เสียในระบบที่เกิดก่อนเดือน ธ.ค. 2543 อันเกิดจากวิกฤตการณ์การเงินปี 2540 ทีมศก.มองว่า ได้ถูกบริหารจัดการแล้วโดย บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) และบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่นๆ ส่วนหนี้เสียที่เกิดภายหลังจากนั้นธนาคารพาณิชย์เองก็ควรเพิ่มการบริงานจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพโดยอาจโอนขายหนี้เสียไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีความชำนาญเฉพาะในการแก้ไขหนี้ เชื่อว่าจะเป็นการแก้ที่ถูกทาง

นายอรรถวิชช์ ยังเห็นว่าปัจจัยสภาวะเงินเฟ้อที่มีลักษณะผิดปกติ และSpread ของธนาคารพาณิชย์ที่มากไป เพียงพอที่จะเป็น “เหตุอันสมควร” ที่ทำให้ ธปท. มีอำนาจกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ เพื่อคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แต่เพิ่มดอกเบี้ยเงินฝากได้ตามมาตรา 46 แห่ง พรบ. ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 ฉบับใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น