ภาวะตลาดหุ้นไทย เช้านี้ ปิดลบถึง 12 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นพลังงาน โบรกฯ ชี้การเมืองกดดันหนัก นักลงทุนกังวลกรณี “ยงยุทธ” ถูกตัดสินคดีวันพรุ่งนี้ อาจทำให้ “พลังประชาชน” วงแตก และจบเกมทั้งหมด แนะถือเงินสด เพื่อรอดูสถานการณ์
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (7 ก.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 731.03 จุด ลดลง 12.00 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.62% มูลค่าการซื้อขาย 4,437 ล้านบาท คาดตลาดหุ้นปรับลงแรง เกิดจากวันนี้ โดยมีประเด็นหลักด้านการเมืองกดดัน โดยเฉพาะกรณี นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ซึ่งพรุ่งนี้ศาลจะแถลงคำตัดสินว่าจะผิดในกรณีของคดีทุจริตเลือกตั้งหรือไม่ และถ้าผิดจริง ก็คงจะสืบเนื่องต่อไปยังกรณีของคดียุบพรรคพลังประชาชน (พปช.) ความกังวลตรงนี้ ทำให้นักลงทุนขายหุ้นออก
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลงแรง เพราะเรื่องของประเด็นเศรษฐกิจยังไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม ราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง เงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่คาดการณ์ว่าในสัปดาห์หน้า ทาง กนง.น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ส่วนไฮไลต์ที่กดดันดัชนีตั้งแต่ต้นสัปดาห์ เชื่อว่า คงเป็นประเด็นทางการเมืองโดยเฉพาะกรณีของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่พรุ่งนี้ศาลฎีกาอาจจะมีการแถลงคำตัดสินว่าจะผิดในกรณีของคดีทุจริตเลือกตั้งหรือเปล่า ถ้าผิดก็คงจะสืบเนื่องต่อไปยังกรณีของคดียุบพรรคพลังประชาชน (พปช.) จากความกังวลตรงนี้ทำให้นักลงทุนขายหุ้นออกมาก่อนและรอดูสถานการณ์ เพราะตอนนี้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ดีอยู่แล้ว และรัฐบาลถ้าวงแตก ก็คงจะทำให้เรื่องการดำเนินนโยบายต่างๆ ต้องหยุดชะงัก ซึ่งเป็นประเด็นที่คนกังวลกันมาก
แนวโน้มช่วงบ่ายตลาดคงยังดูไม่ดีขึ้น เต็มที่แค่ประคองตัวแถว 728-730 จุด ซึ่งเป็นจุดที่เป็นแนวรับเชิงโครงสร้าง แต่ถ้าหลุดบริเวณนี้เป็นสัญญาณลบในภาพระยะกลางอาจจะทำให้ดัชนีเข้าสู่ขาลงอย่างต่อเนื่อง ความเสี่ยงที่เปิดไว้แถว 680-700 จุด สำหรับหุ้นทีมีการเทขายออกมาอย่างหนัก ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่ม ปตท.และหุ้นโรงกลั่น