บสก. ชี้ไทยเผชิญวิกฤติพลังงานหนักสุดในทศวรรษนี้ เหตุแนวโน้มการผลิตลดลงขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมจับมือสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดสัมมนา"พืชพลังงานทดแทนกับอนาคตเศรษฐกิจไทย" 9 ก.ค.นี้ พร้อมคัดทรัพย์ที่ดินเปล่า - ที่ดินเกษตรกรรม 5 หมื่นไร่ ขายให้ลูกค้า
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวว่า บสก.ได้ร่วมกับสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "พืชพลังงานทดแทนกับอนาคตเศรษฐกิจไทย" ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2551 ณ ห้องประชุมสายสุรี จุติกุล คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยมี ฯพณฯ ดร.อำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง พืชอาหารกับพืชพลังงานทดแทน โดยการจัดสัมมนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้คนในประเทศเห็นความสำคัญของการปลูกพืชพลังงานทดแทน เพื่อรองรับสถานการณ์ราคาน้ำมัน และอาหาร ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ในอนาคตพลังงานจะมีราคาสูงมาก เนื่องจากปริมาณการใช้ที่สูงขึ้น ขณะที่การผลิตลดลง อีกทั้งน้ำมันมีความเปราะบางต่อสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ จึงคาดว่าปัญหาพลังงานจะเป็นปัญหาหนักสุดของไทยในทศวรรษนี้ การสนับสนุนด้านพลังงาน จึงเป็นหน้าที่ของ บสก.ในฐานะองค์กรของรัฐ ที่จะร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว" นายบรรยง กล่าว
ปัจจุบัน บสก. มีทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่ดินเปล่า และที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ จำนวน 5 หมื่นไร่ ที่สามารถรองรับการปลูกพืชพลังงานทดแทน และผลิตเพื่อการบริโภคในประเทศได้ โดย บสก. ได้คัดเลือกที่ดินเปล่าขนาดเนื้อที่ 5 ไร่ขึ้นไป มาเสนอขายให้กับนักลงทุนและเกษตรกรในราคาและเงื่อนไขพิเศษ พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์
นอกจากนี้ บสก. ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ซื้อที่ดินในโครงการดังกล่าวจะได้รับส่วนลด 1% ของราคาทรัพย์ เพื่อนำไปปรับปรุงที่ดิน ซื้อปุ๋ย และพันธุ์พืช โดยโปรโมชั่นนี้มีจนถึงเดือนกันยายน 2551 ขณะเดียวกัน บสก.จะเป็นผู้ประสานงานด้านการขอสินเชื่อกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ให้กับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ที่ดินเพื่อการเกษตรจากบสก.
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ บสก. ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชพลังงานทดแทนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้สนใจเสนอซื้อที่ดินเปล่า และที่ดินเกษตรกรรมของ บสก. จำนวน 1 หมื่นไร่ ซึ่งคาดว่าจากแนวทางการให้ความสนับสนุนการปลูกพืชพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ในปีนี้มีผู้สนใจซื้อที่ดินเปล่า และที่ดินเกษตรกรรมของ บสก. จำนวน 2 หมื่นไร่
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวว่า บสก.ได้ร่วมกับสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "พืชพลังงานทดแทนกับอนาคตเศรษฐกิจไทย" ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2551 ณ ห้องประชุมสายสุรี จุติกุล คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยมี ฯพณฯ ดร.อำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง พืชอาหารกับพืชพลังงานทดแทน โดยการจัดสัมมนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้คนในประเทศเห็นความสำคัญของการปลูกพืชพลังงานทดแทน เพื่อรองรับสถานการณ์ราคาน้ำมัน และอาหาร ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ในอนาคตพลังงานจะมีราคาสูงมาก เนื่องจากปริมาณการใช้ที่สูงขึ้น ขณะที่การผลิตลดลง อีกทั้งน้ำมันมีความเปราะบางต่อสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ จึงคาดว่าปัญหาพลังงานจะเป็นปัญหาหนักสุดของไทยในทศวรรษนี้ การสนับสนุนด้านพลังงาน จึงเป็นหน้าที่ของ บสก.ในฐานะองค์กรของรัฐ ที่จะร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว" นายบรรยง กล่าว
ปัจจุบัน บสก. มีทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่ดินเปล่า และที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ จำนวน 5 หมื่นไร่ ที่สามารถรองรับการปลูกพืชพลังงานทดแทน และผลิตเพื่อการบริโภคในประเทศได้ โดย บสก. ได้คัดเลือกที่ดินเปล่าขนาดเนื้อที่ 5 ไร่ขึ้นไป มาเสนอขายให้กับนักลงทุนและเกษตรกรในราคาและเงื่อนไขพิเศษ พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์
นอกจากนี้ บสก. ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ซื้อที่ดินในโครงการดังกล่าวจะได้รับส่วนลด 1% ของราคาทรัพย์ เพื่อนำไปปรับปรุงที่ดิน ซื้อปุ๋ย และพันธุ์พืช โดยโปรโมชั่นนี้มีจนถึงเดือนกันยายน 2551 ขณะเดียวกัน บสก.จะเป็นผู้ประสานงานด้านการขอสินเชื่อกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ให้กับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ที่ดินเพื่อการเกษตรจากบสก.
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ บสก. ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชพลังงานทดแทนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้สนใจเสนอซื้อที่ดินเปล่า และที่ดินเกษตรกรรมของ บสก. จำนวน 1 หมื่นไร่ ซึ่งคาดว่าจากแนวทางการให้ความสนับสนุนการปลูกพืชพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ในปีนี้มีผู้สนใจซื้อที่ดินเปล่า และที่ดินเกษตรกรรมของ บสก. จำนวน 2 หมื่นไร่
