นักลงทุนแห่เทขาย 5 หุ้นร่วงสูงสุด "ริช เอเชีย-ไทยยูนีคคอยล์-เบตเตอร์ เวิลด์-ยูไนเต็ด แสตนดาร์ด-เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้" เหตุถูกบังคับขาย ด้านผู้บริหาร ลั่น ไม่ทราบเหตุหุ้นดิ่ง เชื่อเป็นเหตุผลส่วนตัวของนักลงทุน ย้ำผลการดำเนินงานยังเติบโตต่อเนื่อง
วานนี้(10มิ.ย.) หุ้นที่มีการปรับตัวลดลงแรงมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ บริษัท ริช เอเซีย สตีล จำกัด (มหาชน)หรือ RICH ปิดที่ 0.25 บาท ลดลง 0.23 บาท หรือลดลง 47.92% บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUCC ปิดที่ 6.30 บาท หรือลดลง 2.70 บาท หรือลดลง 30% บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน)หรือ BWG ปิดที่ 5.50 บาท ลดลง 2.35 บาท หรือลดลง 29.94%
บริษัท ยูไนเต็ด แสตนดาร์ด เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน)หรือ UST ปิดที่ 10.30 บาท หรือลดลง 4.10 บาท หรือลดลง 28.47% บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ METRO ปิดที่ 2.30 บาท หรือลดลง 0.74 บาท หรือลดลง 24.34%
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า การที่ราคาหุ้น ริช เอเชีย ส่วนตัวก็ไม่ทราบเหมือนกันแต่เท่าที่มีการสอบถามจากผู้อยู่ในวงการนั้น จากข่าวในห้องค้าที่ถูกบังคับขาย (ฟอสเซลล์) เป็นผลจากที่ราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวลดลงมาจำนวนมาก
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า หุ้นที่ถูกบังคับขายนั้นมีประมาณ 5-7 บริษัท ซึ่งดูข้อมูลได้จากหุ้นดังกล่าวจะปรับตัวลดลงมาแรง เช่น RICH ,TUCC ,METRO แต่ซึ่งหากนักลงทุนสามารถที่จะขายออกมาได้ทันก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
นายสมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ RICH กล่าวว่า การที่หุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงนั้น ไม่ทราบว่าเกิดจากเหตุผลอะไร จึงทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมามาก ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากสุดถึง 52% ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลส่วนตัวของนักลงทุนเอง คาดว่าจะเป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง แต่ในด้านผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นยังคงเติบโตต่อเนื่อง
" ส่วนตัวไม่ทราบว่าสาเหตุที่นักลงทุนมีการขายหุ้นของบริษัทออกมาเชื่อว่าน่าจะเป็น เหตุผลส่วนตัวของนักลงทุนเองไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินธุรกิจ ซึ่งก็ยังไปได้ดี หรือส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะราคาหุ้นที่ต่ำกว่า 1 บาท ทำให้ไม่มีฟลอร์ เมื่อราคาลดลงจึงรูดลงลึกมาก " นายสมเกียรติกล่าว
วานนี้(10มิ.ย.) หุ้นที่มีการปรับตัวลดลงแรงมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ บริษัท ริช เอเซีย สตีล จำกัด (มหาชน)หรือ RICH ปิดที่ 0.25 บาท ลดลง 0.23 บาท หรือลดลง 47.92% บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUCC ปิดที่ 6.30 บาท หรือลดลง 2.70 บาท หรือลดลง 30% บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน)หรือ BWG ปิดที่ 5.50 บาท ลดลง 2.35 บาท หรือลดลง 29.94%
บริษัท ยูไนเต็ด แสตนดาร์ด เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน)หรือ UST ปิดที่ 10.30 บาท หรือลดลง 4.10 บาท หรือลดลง 28.47% บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ METRO ปิดที่ 2.30 บาท หรือลดลง 0.74 บาท หรือลดลง 24.34%
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า การที่ราคาหุ้น ริช เอเชีย ส่วนตัวก็ไม่ทราบเหมือนกันแต่เท่าที่มีการสอบถามจากผู้อยู่ในวงการนั้น จากข่าวในห้องค้าที่ถูกบังคับขาย (ฟอสเซลล์) เป็นผลจากที่ราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวลดลงมาจำนวนมาก
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า หุ้นที่ถูกบังคับขายนั้นมีประมาณ 5-7 บริษัท ซึ่งดูข้อมูลได้จากหุ้นดังกล่าวจะปรับตัวลดลงมาแรง เช่น RICH ,TUCC ,METRO แต่ซึ่งหากนักลงทุนสามารถที่จะขายออกมาได้ทันก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
นายสมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ RICH กล่าวว่า การที่หุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงนั้น ไม่ทราบว่าเกิดจากเหตุผลอะไร จึงทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมามาก ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากสุดถึง 52% ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลส่วนตัวของนักลงทุนเอง คาดว่าจะเป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง แต่ในด้านผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นยังคงเติบโตต่อเนื่อง
" ส่วนตัวไม่ทราบว่าสาเหตุที่นักลงทุนมีการขายหุ้นของบริษัทออกมาเชื่อว่าน่าจะเป็น เหตุผลส่วนตัวของนักลงทุนเองไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินธุรกิจ ซึ่งก็ยังไปได้ดี หรือส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะราคาหุ้นที่ต่ำกว่า 1 บาท ทำให้ไม่มีฟลอร์ เมื่อราคาลดลงจึงรูดลงลึกมาก " นายสมเกียรติกล่าว
