xs
xsm
sm
md
lg

ยอดเงินไหลเข้า Q1 เพิ่มกว่า 5000% ต่างชาติแห่ซื้อบอนด์ ธปท.-รัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธปท.เผยเงินทุนนอกไหลทะลักเข้าไทยไตรมาสแรกเข้ามากกว่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนกว่า 5,000% ซึ่งเฉพาะเดือนมี.ค.เดือนเดียวกว่าไหลเข้า 7,000 ล้านเหรียญ เหตุต่างชาติหันมาลงทุนซื้อพันธบัตรธปท.-รัฐบาลมากขึ้น พร้อมทั้งเก็งว่าเงินบาทแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้ผู้ส่งออกเร่งซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยง

รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า ทีมวิเคราะห์ดุลการชำระเงิน สายนโยบายการเงินของธปท.ได้ประกาศยอดเงินทุนเคลื่อนย้ายสุทธิ ในไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่า ไทยมีเงินทุนไหลเข้าทั้งสิ้น 13,568 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากมีกายกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% สำหรับเงินทุนระยะสั้นจากต่างประเทศเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา เทียบกับไตรมาสก่อนหรือไตรมาส 4 ของปีที่แล้วมีเงินทุนไหลเข้าแค่ 255 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีเงินทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้น 13,313 ล้านบาท คิดเป็น 5,220.78% และเมื่อเทียบกับทั้งปี 50 ที่มีเงินทุนไหลออก 1,149 ล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้น 1,080.85%

ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสนี้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายในแต่ละภาคต่างมีเงินทุนไหลเข้า โดยธนาคารแห่งประเทศไทยมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 544 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการที่นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรธปท.ในตลาดรอง ขณะที่ภาครัฐบาลมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 562 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาคธนาคารมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 7,100 ล้านเหรียญสหรัฐ

และภาคอื่นๆ อีก 5,362 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นภาครัฐวิสาหกิจมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 203 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคารมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 5,159 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนที่เป็นเงินทุนไหลเข้าได้แก่ เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) 2,304 ล้านเหรียญสหรัฐ เงินลงทุนในหลักทรัพย์ 3,364 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่เงินกู้นอกเครือมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 1,526 ล้านเหรียญสหรัฐ และภาคอื่นๆ ที่มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 899 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับตัวเลขเงินทุนเคลื่อนย้ายสุทธิล่าสุดในเดือนมี.ค. 2551มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 7,787 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 311 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการที่นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรธปท.ในตลาดรอง ส่วนภาครัฐบาล มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 363 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการที่นักลงทุนซื้อตราสารหนี้ระยะสั้นและพันธบัตรในตลาดรอง ส่วนภาครัฐวิสาหกิจ มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 233 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการลดสินทรัพย์ต่างประเทศเป็นสำคัญ
ขณะที่ภาคธนาคารมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 4,613 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินทุนไหลเข้ามาจากการลดสินทรัพย์ต่างประเทศสุทธิในการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ากับผู้มีถิ่นฐานในประเทศ (Resident) และลดการถือครองเงินตราต่างประเทศตามสัญญาการซื้อขายที่มีไว้ก่อนหน้า (Unwind Sell-Buy Swap) ของธปท.กับธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ ยังมีการนำเข้าเงินกู้ของสาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ ในส่วนของภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคารมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 2,267 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นเงินทุนที่ไหลเข้ามาจากเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในทุนเรือนหุ้นและเงินกู้ในเครือ เป็นสำคัญ รวมทั้งเงินลงทุนในหลักทรัพย์ของคนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งครบกำหนดอายุการลงทุน

นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า การที่มีเงินทุนไหลเข้ามา เนื่องจากนักลงทุนต่างชาตินำเงินเข้ามาซื้อพันธบัตรทั้งของธปท.และรัฐบาล ขณะที่ภาคเอกชนมีการคาดการณ์ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ส่งออกเร่งซื้ออัตราแลกเปลี่ยนป้องกันความเสี่ยงล่วงหน้า (Forward) รวมทั้งการลดสินทรัพย์ต่างประเทศสุทธิ และการนำเข้าเงินกู้ของสาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศจำนวนหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น