แบงก์ไทยพาณิชย์ยันราคาน้ำมันพุ่งไม่กระทบลูกค้าอุตสาหกรรมมากนัก เนื่องจากลูกค้าปรับตัวไปก่อนหน้าแล้ว ยันพร้อมสนับสนุนสินเชื่อพลังงานทดแทนหากรัฐบาลมีนโยบายการสนับสนุนที่ชัดเจน
นายกฤษณ์ อรรถกฤษณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าอุตสาหกรรมมากนัก เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าได้มีการปรับตัวไปค่อนข้างมากแล้ว อีกทั้งผลกระทบของราคาน้ำมันในลูกค้าแต่ละกลุ่มจะมีมากน้อยไม่เท่ากัน ดังนั้นต้องดูถึงรายละเอียดของต้นทุนของแต่ละแห่งว่าต้นทุนมีการอิงกับน้ำมันมากน้อยแค่ไหนด้วย
ทั้งนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจพลังงานทดแทนได้เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่าง โดยในภาวการณ์ปัจจุบันธุรกิจดังกล่าวควรจะได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังมากขึ้น ส่วนการใช้น้ำมัน E85 ที่จากเดิมไม่มีการพูดถึงมากนัก แต่ตอนนี้คาดว่าจะนำมาใช้ในไตรมาส 4 ของปีนี้ทางภาครัฐก็ควรจะเตรียมความพร้อมของจุดให้บริการให้ดีด้วย อย่างไรก็ตามหากทุกอย่างมีความชัดเจน ธนาคารก็มีความพร้อมที่จะสนับสนุนในการให้สินเชื่อ
"รัฐบาลก่อนหน้าสนับสนุนให้เลิกเบนซิน 95 แต่ตอนนี้ก็ยังคงไว้ ก็คงต้องดูต่อไปนโยบายจะเป็นอย่างไร ส่วนเอทานอลที่ได้มาจากอ้อยนั้นตอนนี้เราผลิตอ้อยได้ 70 ล้านตัน ขณะที่บราซิลผลิตได้ 400 ล้านตัน แต่ราคาเราอิงของเขา ก็ต้องดูว่าเรากับบราซิลมีโครงสร้างเหมือนกันรึเปล่า เพราะพอใช้ฐานที่บราซิลคิดฐานราคาน้ำมันมันก็ต่างกันเยอะ ดังนั้นต้องดูวิธีการกำหนดราคาว่าเป็นไงด้วย โดยขณะนี้โรงงานเอทานอลของเราก็มีเยอะแต่ยังเปิดไม่ได้"
นายกฤษณ์ กล่าวว่า ถ้าวันนี้ราคาน้ำมันอยู่ที่ 60 เหรียญต่อบาเรล คงไม่มีคนพูดถึง E85 หรือเอทานอล ดังนั้นการเข้ามาของ E85 ก็น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลง หรือทำให้ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันบนดิน โดยจะต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรที่จะเพิ่มผลผลิตอ้อยโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่ในการผลิต ซึ่งสิ่งที่ทำได้ก็คือการเพิ่มอัตราผลตอบแทน ด้วยการเพิ่มระบบชลประทาน ให้พื้นที่เพาะปลูกมีน้ำดี ดินดี ก็จะได้ผลิตที่มากขึ้น เพื่อส่งต่อไปยังโรงงานที่ในขณะนี้ยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกมาก
นายกฤษณ์ อรรถกฤษณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าอุตสาหกรรมมากนัก เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าได้มีการปรับตัวไปค่อนข้างมากแล้ว อีกทั้งผลกระทบของราคาน้ำมันในลูกค้าแต่ละกลุ่มจะมีมากน้อยไม่เท่ากัน ดังนั้นต้องดูถึงรายละเอียดของต้นทุนของแต่ละแห่งว่าต้นทุนมีการอิงกับน้ำมันมากน้อยแค่ไหนด้วย
ทั้งนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจพลังงานทดแทนได้เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่าง โดยในภาวการณ์ปัจจุบันธุรกิจดังกล่าวควรจะได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังมากขึ้น ส่วนการใช้น้ำมัน E85 ที่จากเดิมไม่มีการพูดถึงมากนัก แต่ตอนนี้คาดว่าจะนำมาใช้ในไตรมาส 4 ของปีนี้ทางภาครัฐก็ควรจะเตรียมความพร้อมของจุดให้บริการให้ดีด้วย อย่างไรก็ตามหากทุกอย่างมีความชัดเจน ธนาคารก็มีความพร้อมที่จะสนับสนุนในการให้สินเชื่อ
"รัฐบาลก่อนหน้าสนับสนุนให้เลิกเบนซิน 95 แต่ตอนนี้ก็ยังคงไว้ ก็คงต้องดูต่อไปนโยบายจะเป็นอย่างไร ส่วนเอทานอลที่ได้มาจากอ้อยนั้นตอนนี้เราผลิตอ้อยได้ 70 ล้านตัน ขณะที่บราซิลผลิตได้ 400 ล้านตัน แต่ราคาเราอิงของเขา ก็ต้องดูว่าเรากับบราซิลมีโครงสร้างเหมือนกันรึเปล่า เพราะพอใช้ฐานที่บราซิลคิดฐานราคาน้ำมันมันก็ต่างกันเยอะ ดังนั้นต้องดูวิธีการกำหนดราคาว่าเป็นไงด้วย โดยขณะนี้โรงงานเอทานอลของเราก็มีเยอะแต่ยังเปิดไม่ได้"
นายกฤษณ์ กล่าวว่า ถ้าวันนี้ราคาน้ำมันอยู่ที่ 60 เหรียญต่อบาเรล คงไม่มีคนพูดถึง E85 หรือเอทานอล ดังนั้นการเข้ามาของ E85 ก็น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลง หรือทำให้ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันบนดิน โดยจะต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรที่จะเพิ่มผลผลิตอ้อยโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่ในการผลิต ซึ่งสิ่งที่ทำได้ก็คือการเพิ่มอัตราผลตอบแทน ด้วยการเพิ่มระบบชลประทาน ให้พื้นที่เพาะปลูกมีน้ำดี ดินดี ก็จะได้ผลิตที่มากขึ้น เพื่อส่งต่อไปยังโรงงานที่ในขณะนี้ยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกมาก
