TRC โชว์ backlog ทะลุ 2,368 ลบ. หลังไตรมาสแรก คว้างานเพิ่มอีก 5 โครงการรวมมูลค่า 1,723 ลบ. "สมัย " เผยเริ่มรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป เชื่อหนุนรายได้เติบโตได้อย่างโดดเด่น ส่วนครึ่งปีหลังเดินหน้าลุยตลาดนอกเต็มสูบ หลังตั้ง 2 บ.ย่อยในต่างประเทศรองรับการขยายธุรกิจอย่างเป็นทางการแล้ว มั่นใจประสบการณ์ล้น ช่วยให้รับงานนอกได้ไม่ยาก
นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TRC กล่าวว่าสิ้นไตรมาสแรกบริษัทและบริษัทย่อย มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) มูลค่า 2,368.35 ล้านบาท จากงานในมือ 16 โครงการ แบ่งเป็นงานในมือของ TRC 12 โครงการรวมมูลค่า 1,842.61 ล้านบาท และเป็นงานในมือของบริษัท สหการวิศวกร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย 6 โครงการ มูลค่า 588.37 ล้านบาท และมีงานโครงการระหว่างกัน 2 โครงการ มูลค่า 62.63 ล้านบาทแต่ไม่ได้นำมารวมด้วย
"Backlog ในมือ ส่วนใหญ่เป็นงานที่บริษัทได้รับมาในไตรมาสแรกปีนี้ โดยในช่วงดังกล่าวได้รับงานโครงการสำคัญ 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,723.8 ล้านบาท โดยงานทั้งหมดคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2551 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะสนับสนุนให้รายได้ในไตรมาสที่สองเป็นต้นไปเติบโตอย่างโดดเด่นได้" นายสมัยกล่าว
นายสมัยกล่าวต่อว่า ในครึ่งปีหลังนี้บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานด้านก่อสร้างและวิศวกรในงานวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งเป็นงานที่บริษัทเชี่ยวชาญ งานด้านวางแผนวิศวกรรม และพัฒนาโครงการทั้งทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า และโรงงานปิโตรเคมี ในลักษณะ Turn Key
อย่างไรก็ดี ในครึ่งปีหลังนี้นอกเหนือจากการมุ่งขยายตลาดในประเทศแล้ว TRC ยังเดินหน้าขยายตลาดในต่างประเทศอย่างจริงจังอีกด้วย หลังจากได้เข้าไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยที่ต่างประเทศ 2 แห่ง คือ TRC International Limited ที่ประเทศฮ่องกง และ TRC Investment ที่สาธารณรัฐเมอริเชียส ด้วยทุนจดทะเบียน 10,000 เหรียญฮ่องกง และ 1 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ เพื่อลงทุน และเข้าประมูลงานในโครงการต่าง ๆ และเพื่อการดำเนินธุรกรรมในต่างประเทศ
โดยขณะนี้บริษัทได้เริ่มเข้าร่วมประมูลงานแล้วในหลายประเทศ ทั้งในกลุ่มตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้ โดยส่วนใหญ่เป็นงานประเภทวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งเป็นงานที่ TRC มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์แล้วเป็นอย่างดี จึงเชื่อว่า จะช่วยให้บริษัทได้รับงานประมูลได้ไม่ยากนัก
"ในปีนี้นอกเหนือจากการรอรับรู้รายได้จากงานในมือแล้ว เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา บริษัท และผู้ถือหุ้นอีก 2 รายในโครงการราชเพลิน คือ Zelan Corporation Sdn. Bhd. และบริษัท มณียา เรียลตี้ จำกัด ได้ร่วมลงนามใน Definitive Agreement กับผู้เสนอซื้อหุ้น เพื่อการขายหุ้นในโครงการราชเพลิน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อให้เงื่อนไขสำคัญของการซื้อขายหุ้นสำเร็จ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า และหากรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวเชื่อว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการของ TRC ในปี 51 เติบโตได้อย่างโดดเด่น" นายสมัยกล่าวในที่สุด
นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TRC กล่าวว่าสิ้นไตรมาสแรกบริษัทและบริษัทย่อย มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) มูลค่า 2,368.35 ล้านบาท จากงานในมือ 16 โครงการ แบ่งเป็นงานในมือของ TRC 12 โครงการรวมมูลค่า 1,842.61 ล้านบาท และเป็นงานในมือของบริษัท สหการวิศวกร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย 6 โครงการ มูลค่า 588.37 ล้านบาท และมีงานโครงการระหว่างกัน 2 โครงการ มูลค่า 62.63 ล้านบาทแต่ไม่ได้นำมารวมด้วย
"Backlog ในมือ ส่วนใหญ่เป็นงานที่บริษัทได้รับมาในไตรมาสแรกปีนี้ โดยในช่วงดังกล่าวได้รับงานโครงการสำคัญ 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,723.8 ล้านบาท โดยงานทั้งหมดคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2551 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะสนับสนุนให้รายได้ในไตรมาสที่สองเป็นต้นไปเติบโตอย่างโดดเด่นได้" นายสมัยกล่าว
นายสมัยกล่าวต่อว่า ในครึ่งปีหลังนี้บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานด้านก่อสร้างและวิศวกรในงานวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งเป็นงานที่บริษัทเชี่ยวชาญ งานด้านวางแผนวิศวกรรม และพัฒนาโครงการทั้งทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า และโรงงานปิโตรเคมี ในลักษณะ Turn Key
อย่างไรก็ดี ในครึ่งปีหลังนี้นอกเหนือจากการมุ่งขยายตลาดในประเทศแล้ว TRC ยังเดินหน้าขยายตลาดในต่างประเทศอย่างจริงจังอีกด้วย หลังจากได้เข้าไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยที่ต่างประเทศ 2 แห่ง คือ TRC International Limited ที่ประเทศฮ่องกง และ TRC Investment ที่สาธารณรัฐเมอริเชียส ด้วยทุนจดทะเบียน 10,000 เหรียญฮ่องกง และ 1 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ เพื่อลงทุน และเข้าประมูลงานในโครงการต่าง ๆ และเพื่อการดำเนินธุรกรรมในต่างประเทศ
โดยขณะนี้บริษัทได้เริ่มเข้าร่วมประมูลงานแล้วในหลายประเทศ ทั้งในกลุ่มตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้ โดยส่วนใหญ่เป็นงานประเภทวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งเป็นงานที่ TRC มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์แล้วเป็นอย่างดี จึงเชื่อว่า จะช่วยให้บริษัทได้รับงานประมูลได้ไม่ยากนัก
"ในปีนี้นอกเหนือจากการรอรับรู้รายได้จากงานในมือแล้ว เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา บริษัท และผู้ถือหุ้นอีก 2 รายในโครงการราชเพลิน คือ Zelan Corporation Sdn. Bhd. และบริษัท มณียา เรียลตี้ จำกัด ได้ร่วมลงนามใน Definitive Agreement กับผู้เสนอซื้อหุ้น เพื่อการขายหุ้นในโครงการราชเพลิน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อให้เงื่อนไขสำคัญของการซื้อขายหุ้นสำเร็จ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า และหากรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวเชื่อว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการของ TRC ในปี 51 เติบโตได้อย่างโดดเด่น" นายสมัยกล่าวในที่สุด