กรุงไทยประกาศวงเงินหุ้นกู้เต็มเพดาน 28,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี มีให้เลือกทั้งดอกเบี้ยคงที่-ลอยตัวอิงกับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือนสูงสุด 6.5% หวังระดมทุนปล่อยสินเชื่อและเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 เปิดขาย 3-5 มิ.ย.นี้
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่มีความต้องการเงินทุนในการขยายธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ธนาคารจึงได้ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ อายุ 10 ปี และธนาคารมีสิทธิไถ่ถอนคืนเมื่อครบปีที่ 5 ในวงเงินไม่เกิน 28,000 ล้านบาท เพื่อจำหน่ายให้กับนักลงทุนสถาบันและลูกค้ารายย่อยในประเทศ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ และประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอิงกับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ซึ่งจะจำหน่ายขั้นต่ำ 100,000 บาท และเพิ่มเป็นทวีคูณ ผ่านสาขาทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายนนี้
“สำหรับผลตอบแทนนั้น หุ้นกู้ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-5 ธนาคารจ่ายในอัตรา 5% ต่อปีปีที่ 6-10 จ่ายในอัตรา 6.5% ต่อปี สำหรับหุ้นกู้ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอิงกับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ปีที่ 1-5 ธนาคารจ่ายในอัตราเงินฝากประจำ 6 เดือนเฉลี่ยบวก 1.5% ต่อปี ปีที่ 6-10 จ่ายในอัตราเงินฝากประจำ 6 เดือนเฉลี่ยบวก 2.5% ต่อปี โดยจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการออม ซึ่งหุ้นกู้ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอิงกับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือนนี้ หากในอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มสูงขึ้น ลูกค้าก็จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น”นายอภิศักดิ์กล่าว
นายอภิศักดิ์ กล่าวอีกว่า เหตุผลในการออกหุ้นในครั้งนี้ เพื่อจัดหาเงินทุนระยะยาวไว้รองรับการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าในการขยายธุรกิจ นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างฐานเงินทุนของธนาคารให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของเงินกองทุนชั้นที่ 2 โดยขณะนี้ธนาคารมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง 14.59% และเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 จำนวน 3.61%
โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการจำหน่ายหุ้นกู้ ให้กับนักลงทุนสถาบันและรายย่อยในปี 2547 จำนวน 10,000 ล้านบาท และในปี 2548 จำนวน 10,400 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้ธนาคารสามารถออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ และนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ได้ไม่เกิน 28,000 ล้านบาท
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่มีความต้องการเงินทุนในการขยายธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ธนาคารจึงได้ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ อายุ 10 ปี และธนาคารมีสิทธิไถ่ถอนคืนเมื่อครบปีที่ 5 ในวงเงินไม่เกิน 28,000 ล้านบาท เพื่อจำหน่ายให้กับนักลงทุนสถาบันและลูกค้ารายย่อยในประเทศ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ และประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอิงกับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ซึ่งจะจำหน่ายขั้นต่ำ 100,000 บาท และเพิ่มเป็นทวีคูณ ผ่านสาขาทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายนนี้
“สำหรับผลตอบแทนนั้น หุ้นกู้ประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-5 ธนาคารจ่ายในอัตรา 5% ต่อปีปีที่ 6-10 จ่ายในอัตรา 6.5% ต่อปี สำหรับหุ้นกู้ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอิงกับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ปีที่ 1-5 ธนาคารจ่ายในอัตราเงินฝากประจำ 6 เดือนเฉลี่ยบวก 1.5% ต่อปี ปีที่ 6-10 จ่ายในอัตราเงินฝากประจำ 6 เดือนเฉลี่ยบวก 2.5% ต่อปี โดยจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการออม ซึ่งหุ้นกู้ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอิงกับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือนนี้ หากในอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มสูงขึ้น ลูกค้าก็จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น”นายอภิศักดิ์กล่าว
นายอภิศักดิ์ กล่าวอีกว่า เหตุผลในการออกหุ้นในครั้งนี้ เพื่อจัดหาเงินทุนระยะยาวไว้รองรับการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าในการขยายธุรกิจ นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างฐานเงินทุนของธนาคารให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของเงินกองทุนชั้นที่ 2 โดยขณะนี้ธนาคารมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง 14.59% และเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 จำนวน 3.61%
โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการจำหน่ายหุ้นกู้ ให้กับนักลงทุนสถาบันและรายย่อยในปี 2547 จำนวน 10,000 ล้านบาท และในปี 2548 จำนวน 10,400 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้ธนาคารสามารถออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ และนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ได้ไม่เกิน 28,000 ล้านบาท