xs
xsm
sm
md
lg

กบข.จัดพอร์ต 1.3 แสนล.หนีตลาดทุนโลกผันผวน เบนเข็มลงตลาดเกิดใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิสิฐ ตันติสุนทร
กบข.ประกาศจัดพอร์ตการลงทุนใหม่ เตรียมเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดเอเมอร์จิ้น มาร์เก็ต หนีความผันผวนตลาด รับมือเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย ยันพอร์ตในตลาดหุ้นไทย ลดแค่สัดส่วนแต่เม็ดเงินยังอยู่เท่าเดิม

วันนี้ (2 พ.ค.) นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในปีนี้ว่า กบข.ได้ปรับแผนการลงทุนระยะยาวในปีนี้ด้วยการกระจายน้ำหนักไปยังตลาดประเทศเกิดใหม่ เพื่อลดผลกระทบจากกรณีที่เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยจากปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ที่มีต่อตลาดหลักทั่วโลก

ปัจจุบัน กบข. มียอดเงินกองทุนที่บริหารอยู่กว่า 3.8 แสนล้านบาท และด้วยจำนวนเงินดังกล่าวจึงต้องมีการกระจายลงไปในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ รวมถึง การกระจายการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพรม์น้อยกว่าตลาดหุ้นสหรัฐ หรือตลาดหุ้นในยุโรป

นายวิสิฐ กล่าวว่า กบข. ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แม้จะดูตามพอร์ตการลงทุนสัดส่วนจะดูน้อยลง แต่ในแง่ของเม็ดเงินแล้วไม่ได้ปรับตัวลดลง เนื่องจากพอรต์ลงทุนของ กบข.ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ตามเงินสมทบที่ไหลเข้า และผลตอบแทนการลงทุนที่เพิ่มในแต่ละปี

สำหรับนโยบายการลงทุนระยะยาว กบข.ได้มีการปรับกลยุทธ์การลงทุนใหม่ โดยที่การลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศจะใกล้เคียงกับระดับเดิมเป็นร้อยละ 59.0 ตราสารหนี้ในต่างประเทศเป็นร้อยละ 4.0 ตลาดสารทุนในประเทศเป็นร้อยละ 11.5 ตราสารทุนต่างประเทศเป็นร้อยละ 12.0 สำหรับการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และลงทุนทางเลือกในประเทศจะอยู่ร้อยละ 4.0 และร้อยละ 4.0 ตามลำดับ โดยจะมีการขยายไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใหม่ๆ ในต่างประเทศ คือ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศร้อยละ 2.5 และลงทุนในหุ้นนอกตลาด (Private Equity) ทั่วโลกร้อยละ 3.0

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) น่าจะสามารถขยายตัวในระดับ 5.0-5.5% ตามเป้าที่กำหนดไว้ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบาลลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเมือง และปัญหาเงินเฟ้อ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น