พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง กำหนดช่วงราคาไอพีโอที่ 3-3.50 บาทต่อหุ้น คาดสรุปราคา ต้นพ.ค.นี้ ก่อน เปิดจอง 14-16 พ.ค. เผยหลังโรดโชว์นักลงทุนสถาบัน 21-23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเกินคาด พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 27 พ.ค. ด้านเอเชีย กรีน ยื่นไฟลิ่งขายหุ้น 35 ล้านหุ้น
นายกำธร ศิลาอ่อน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญบริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PM เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้กำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนในครั้งแรก (IPO) เบื้องต้น 3-3.50 บาท และคาดว่าจะสามารถสรุปราคาเสนอขายได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยน่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในวันที่ 27 พฤษภาคม นี้
โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อได้ในวันที่ 14-16 พฤษภาคมนี้ จำนวน 215 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 150 ล้านหุ้น และเป็นหุ้นสามัญเดิมของบริษัท พรีเมียร เพ็ท โพรดักส์ จํากัด ที่นำมาเสนอขาย 65 ล้านหุ้น โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จํากัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
"ผลการนำเสนอข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน หรือ โรดโชว์ของบริษัทฯ ให้แก่นักลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 21-23 เมษายน 2551 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเกินความคาดหมาย และหลังจากบริษัทฯได้นำเสนอข้อมูลขายหุ้นแล้ว คาดว่าจะเสนอขายหุ้นได้ในวันที่ 14-16 พฤษภาคม โดยมีบล.บัวหลวง เป็นผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น"
สำหรับเม็ดเงินที่คาดว่าจะได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะไปปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัทและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 650 ล้านบาท เรียกชําระแล้ว 500 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 500 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท หลังเสนอขายหุ้น IPO จะส่งผลให้มีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเป็น 650 ล้านบาท โดยหุ้น IPO คิดเป็น 33.08% ของจํานวนหุ้นที่ออกและชําระแล้ว และบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี
อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในปี 2550 มีรายได้รวม 2,794 ล้านบาท เติบโตจากปี 2549 ในอัตรา 14% และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากปี 2549 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 148 ล้านบาท ทั้งนี้ กำไรสุทธิจากการดำเนินงานในปี 2550 หากรวมกำไรที่เกิดจากรายการพิเศษอื่นๆ อีก 86 ล้านบาท จะทำให้ มีกำไรสุทธิทั้งหมด 292 ล้านบาท
ด้านบริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 35 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ซึ่งแต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ซึ่งเงินที่ได้จะนำไปใช้ในการปรับปรุงขยายพื้นที่โรงงาน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายกำธร ศิลาอ่อน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญบริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PM เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้กำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนในครั้งแรก (IPO) เบื้องต้น 3-3.50 บาท และคาดว่าจะสามารถสรุปราคาเสนอขายได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยน่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในวันที่ 27 พฤษภาคม นี้
โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อได้ในวันที่ 14-16 พฤษภาคมนี้ จำนวน 215 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 150 ล้านหุ้น และเป็นหุ้นสามัญเดิมของบริษัท พรีเมียร เพ็ท โพรดักส์ จํากัด ที่นำมาเสนอขาย 65 ล้านหุ้น โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จํากัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
"ผลการนำเสนอข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน หรือ โรดโชว์ของบริษัทฯ ให้แก่นักลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 21-23 เมษายน 2551 ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเกินความคาดหมาย และหลังจากบริษัทฯได้นำเสนอข้อมูลขายหุ้นแล้ว คาดว่าจะเสนอขายหุ้นได้ในวันที่ 14-16 พฤษภาคม โดยมีบล.บัวหลวง เป็นผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น"
สำหรับเม็ดเงินที่คาดว่าจะได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะไปปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัทและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 650 ล้านบาท เรียกชําระแล้ว 500 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 500 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท หลังเสนอขายหุ้น IPO จะส่งผลให้มีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเป็น 650 ล้านบาท โดยหุ้น IPO คิดเป็น 33.08% ของจํานวนหุ้นที่ออกและชําระแล้ว และบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี
อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในปี 2550 มีรายได้รวม 2,794 ล้านบาท เติบโตจากปี 2549 ในอัตรา 14% และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากปี 2549 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 148 ล้านบาท ทั้งนี้ กำไรสุทธิจากการดำเนินงานในปี 2550 หากรวมกำไรที่เกิดจากรายการพิเศษอื่นๆ อีก 86 ล้านบาท จะทำให้ มีกำไรสุทธิทั้งหมด 292 ล้านบาท
ด้านบริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 35 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ซึ่งแต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ซึ่งเงินที่ได้จะนำไปใช้ในการปรับปรุงขยายพื้นที่โรงงาน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
