xs
xsm
sm
md
lg

13 แบงก์หนุนสินเชื่อพลังงาน ค่ายบัวหลวงอัด 1.7 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รมว.พลังงานเผยสถาบันการเงิน 13 แห่ง ตอบรับปล่อยสินเชื่อประหยัดพลังงาน 5 หมื่นล้าน เพื่อให้ครัวเรือน-ผู้ประกอบการ เร่งปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบุแบงก์กรุงเทพให้วงเงินสินเชื่อ 17,000 ล้านบาท

พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน กล่าวภายหลังลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ซึ่งว่าด้วยความร่วมมือโครงการสินเชื่อพลังงาน ร่วมกับสถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ของไทย 13 แห่ง พร้อมปล่อยสินเชื่อให้ครัวเรือน และผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ว่า ขณะนี้ธนาคารหลายแห่งกำหนดวงเงินในการปล่อยสินเชื่อแล้ว ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ มีวงเงินสินเชื่อ 17,000 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย มีวงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท ธนาคารไทยธนาคาร มีวงเงินสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) มีวงเงินสินเชื่อ 3,000 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) มีวงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท รวมแล้ว 37,000 ล้านบาท ส่วนธนาคารที่เหลือ จะมีการกำหนดวงเงินสินเชื่อในภายหลัง แต่คาดว่าจะมีวงเงินรวมกันกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งในภาคครัวเรือนกำหนดปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ที่ 10,000 -20,000 บาทต่อครัวเรือน

"ในเร็วๆ นี้ กระทรวงพลังงานจะให้ผู้ประกอบการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าในกรณีที่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ จากเดิมที่กินไฟ 3 วัตต์ เหลือไม่เกิน 1 วัตต์ คาดว่าจะสามารถบังคับใช้เร็วๆ นี้ รวมทั้งกระทรวงพลังงาน มีโครงการประหยัดพลังงานต่างๆ โดยกรณีสถานที่วัด โรงเรียน มัสยิดที่มีทั่วประเทศกว่า 40,000 แห่ง จะดำเนินการให้แต่ละแห่งเป็นต้นแบบเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าแห่งละ 20 หลอด" พล.ท.หญิงพูนภิรมย์กล่าว

สำหรับโครงการประหยัดพลังงานของไทย เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2535 แต่กระทรวงพลังงาน จะกลับมาดูรายละเอียดว่า แนวทางที่ดำเนินการก่อนหน้านี้มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรายละเอียดมาตรการหรือไม่ เพื่อให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น

"หากแนวทางประหยัดพลังงานหลังจากนี้ไป มีผลในทางปฏิบัติ คาดว่าจะประหยัดไฟฟ้าได้ประมาณปีละ 3,500 ล้านหน่วย และประหยัดน้ำมันได้ไม่ต่ำกว่า 925 ล้านลิตรต่อปี รวมทั้งประหยัดพลังงานอื่นๆ ได้อีกไม่ต่ำกว่า 17,500 ล้านบาท" รมว.พลังงานกล่าวและว่า นโยบายของกระทรวงพลังงานหลังจากนี้ จะพยายามกระตุ้นให้ภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะครัวเรือนประหยัดพลังงาน เพราะนับวันราคาพลังงานมีแนวโน้มแพงขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น