xs
xsm
sm
md
lg

TCRB ตั้งเป้าปล่อยกู้เพิ่มเป็น 7 พันล. คาดปี 53 ล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธนาคารไทยเครดิตตั้งเป้าปี 51 โตก้าวกระโดด ยอดสินเชื่อโต 258% เป็น 7 พันล้าน จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1.9 พันล้าน ด้านเงินฝากเพิ่ม 315% เป็น 7 พันล้าน จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1,688 ล้าน เผยกลยุทธเร่งเชื่อมโยงธุรกรรมบริษัทแม่"ไทยประกัน" พร้อมคาดล้างขาดทุน 287 ล้านได้ในปี 53

นายมงคล ลีลาธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)(TCRB) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 ธนาคารมียอดสินเชื่อรวม 2,827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากสิ้นปี 2550 ที่มียอดสินเชื่อ 1,954 ล้านบาท มียอดเงินฝากรวม 2,825 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% จากสิ้นปี 2550 ที่มียอดเงินฝากรวม 1,688 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นผลมาจากในช่วงต้นปี ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมทั้งสินเชื่อและเงินฝาก โดยได้ออกสินเชื่อบุคคลทองแลกเงิน เน้นกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีรายได้ประจำ หรือมีอาชีพอิสระ ใช้หลักประกันเป็นทองคำ และสินเชื่อบุคคลทองทันใจ เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำ พนักงานบริษัทห้างร้าน เป็นสินเชื่อในรูปเงินกู้โอดี ที่เบิกใช้ผ่านตู้เอทีเอ็ม โดยใช้สลิปเงินเดืออน ทองคำ และสมุดเงินฝากในการขอสินเชื่อ ด้านเงินฝากล่าสุดออกผลิตภัณฑ์ Plus Account เป็นเงินฝากออมทรัพย์รับดอกเบี้ยก่อน โดยธนาคารจะจ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 3%ทันที ในเงื่อนไขที่ต้องรักษายอดเป็นเวลา 6 เดือน

"การขยายธุรกิจของธนาคารจะไม่เน้นที่ปริมาณผลิตภัณฑ์ แต่จะเน้นการต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว โดยขณะนี้มี 4 ผลิตภัณฑ์หลัก และจะมีที่แตกออกไปอีกไม่เกินอย่าง 5 อย่างต่อผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเน้นที่ความเข้าถึงง่าย และไม่ซับซ้อน แต่ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้ารายย่อยได้ โดยจากสินเชื่อรวมของธนาคารแบ่งเป็นสินเชื่อเอสเอ็มอี 55% ที่เหลือเป็นสินเชื่อบุคคล 45% ซึ่งแบ่งเป็น สินเชื่อบ้าน 20% สินเชื่อเช่าซื้อ 20% และสินเชื่อทองคำ 5% "นายมงคลกล่าว

สำหรับทั้งปี 2551 ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรวมไว้ที่ 7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 258% จากสิ้นปีก่อน เงินฝากรวม 7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 315%จากสิ้นปีก่อน ส่วนสินทรัพย์รวมอยู่ในระดับ 8,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 234%จากสิ้นปีก่อน สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) 3.10% จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ในระดับ 2.93% เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง 15.7% จากสิ้นปีก่อนที่อยู่ในระดับ 36.51% และมีทุนจดทะเบียน 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 500 ล้านบาท โดยจากการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนก่อนได้มีมติเพิ่มทุนให้ธนาคารอีก 500 ล้านบาท โดยจะเรียกชำระในเดือนพฤษภาคม 250 ล้านบาท และอีก 250 ล้านบาทในเดือนธันวาคม ซึ่งจะทำให้ธนาคารเงินกองทุนเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มเป็น 10 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 4 แห่ง

นายมงคลกล่าวอีกว่า ในปีนี้ธนาคารจะดำเนินงานใน 3 แผนหลัก ได้แก่ การเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างธุรกิจและการสร้างรายได้จากทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ของธนาคาร พร้อมกันนั้นจะก็ดำเนินธุรกิจที่เกื้อหนุนกันระหว่างธนาคารกับกลุ่มไทยประกันชีวิต และการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมต่อกันระหว่างธนาคารกับคู่ค้าและพันธมิตร โดยในช่วงที่ผ่านทางกลุ่มไทยประกันชีวิตได้เริ่มส่งต่อธุรกรรมทางเงินให้กับธนาคารบ้างแล้ว ได้แก่ ธุรกรรมด้านการโอนเงินรายย่อยและบริการโอนเงินบาทเนต และก็จะทยอยเพิ่มเติมจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น

ด้านผลการดำเนินงานของธนาคารในปี 50 นั้น ขณะนี้ยังมีขาดทุนสะสมอยู่ประมาณ 287 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดในปี 2553 และในปีนี้ธนาคารน่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานได้

นายจุลประชา สุนทรศารทูล ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย กล่าวว่า ธนาคารเริ่มมีการเจรจากับสถาบันการเงินต่างชาติเพื่อหาพันธมิตรในการร่วมธุรกิจกับธนาคาร เนื่องจากมองว่าในอนาคตจะมีการแข่งขันในธุรกิจธนาคารพาณิชย์มากขึ้น จึงมองว่าหากได้พันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งก็จะช่วยให้การทำธุรกิจของธนาคารมีทิศทางดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจากการเจรจากับพันธมิตรจะได้ข้อสิ้นสุดเมื่อใด อย่างไรก็ตามพันธมิตรที่ธนาคารต้องการ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นธนาคารพาณิชย์ แต่อาจเป็นสถาบันการเงินแบบอื่นที่จะเข้ามาช่วยเสริมส่วนงานที่ธนาคารยังไม่มี พร้อมนำองค์ความรู้เข้ามาช่วยเสริมการทำงานของธนาคารเพื่อให้เป็นธนาคารที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบ
กำลังโหลดความคิดเห็น