CK แจงการเปลี่ยนเงื่อนไขการชำระคืนเงินกู้ของกิจการร่วมค้า " CKAE " และ" CKET " เนื่องจากบริษัททำการกู้ยืมเงินแก่ 2 บริษัทเพื่อใช้ในการดำเนินงาน เผยการขยายเวลาชำระคืนเงินกู้ เพราะบริษัททั้งสองแห่งจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในการเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนา ขณะที่ต้องชำระคืนเงินกู้ให้ผู้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อก่อนชำระคืนแก่ผู้ถือหุ้น
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)(CK) ได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2550 เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 51 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้บริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ลงทุนเข้าใจในรายการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนเงินให้กู้ยืมแก่กิจการที่ควบคุมร่วมกัน 2 แห่ง คือกลุ่มบริษัท ซีเคเออี คอนซอร์เตียม (CKAE) และ กิจการร่วมค้า ซีเคอีที (CKET) นั้น บริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้
1. รายละเอียดของการเข้าทำรายการให้กู้ยืมแก่กิจการร่วมค้าทั้ง 2 แห่ง
1.1 CK ทำรายการให้กู้ยืมเงินแก่ CKAE เพื่อนำไปใช้ในการลงทุนในการดำเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานกรุงเทพ ซึ่งCK ถือหุ้นอยู่ใน CKAE 98% โดยเป็นการให้เงินสนับสนุนในลักษณะของเงินกู้ยืมเงินตามสั ดส่วนการถือ หุ้นในกิจการร่วมค้า และเป็นแหล่งเงิน ที่บริษั ทฯ ได้มาจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งCK เริ่มให้การสนับสนุนเงินกู้เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 44 ในวงเงินไม่เกิน 686 ล้านบาท
1.2 CK ทำรายการให้กู้ยืมเงินแก่ CKET เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินงานโครงการควบคุมดูแลงานในส่วนการออกแบบ จัดหา ติดตั้ง ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์งานระบบ และการใช้งานของระบบรถไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ใน CKET คิดเป็น 80 % และบริษัท เอกซ์เปอร์ต ทรานสปอร์ตจำกัด (ET) (ซึ่งเป็นบริษัทย่อย 90 % ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่) ถือหุ้นคิดเป็น 20 %โดยให้สนับสนุนลักษณะของเงินกู้ยืมตามสัดส่วนการถือหุ้นในกิจการร่วมค้า และ CK เริ่มให้การสนับสนุนเงินกู้เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 45 ในวงเงินไม่เกิน1,320 ล้านบาท
2. เหตุผลและความจำเป็นที่บริษัทฯ ตกลงขยายระยะเวลาและเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนเงินให้กู้ยืมแก่กิจการร่วมค้าทั้ง 2 แห่ง
2.1 เนื่องจาก CKAE แจ้งถึงความจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในการเร่งดําเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานกรุงเทพซึ่งมีมูลค่าโครงการ 3,877,661,810 บาท โดยขอวงเงินสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นตาม ซึ่งเป็นเงินกู้เพิ่มจากวงเงินกู้ที่ CKAEได้รับมาจากสถาบันการเงิน และเมื่อดำเนินการก่อสร้าง CKAE ต้องชำระคืนเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงินผู้ให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อโครงการดังกล่าวให้ครบจำนวนก่อน แล้ว CKAE จะนำเงินส่วนที่เหลือจากการดำเนินงานมาชำระคืนให้แก่ผู้ถือหุ้น
เนื่องจาก CKAE มีรายการให้กู้ยืมแก่ผู้รับเหมาช่วง ซึ่งเป็นเงินได้จากการเบิกเงินกู้จากสถาบันการเงิน เพื่อการเร่งการก่อสร้างแต่ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่ได้ตามสัญญา ทำให้กลายเป็นลูกหนี้เงินกู้ CKAE ทำให้ CKAE ยังไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ที่มีกับผู้ถือหุ้นได้ แต่ก็ได้รับการชำระหนี้คืน คงเหลือหนี้สิ้นปี 50 คือ 140,968,197 บาท ซึ่งเปลี่ยนจากหนี้ระยะสั้นเป็นระยะยาวอันจะครบกำหนดชำระคืน 31 มีนาคม 52 CK เชื่อว่า CKAE จะสามารถชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยให้แก่บริษัทฯ ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ และ ได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 1.75 % ต่อปีของเงินที่กู้ยืมนับแต่วันที่กู้จนถึงวันที่ชำระเสร็จ จึงไม่ได้ทำให้CK เสียประโยชน์จากการให้เงินกู้ดังกล่าวแต่อย่างใด
2.2 เหตุผลที่เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนเงินกู้ CKET เนื่องจาก CKET ได้รับว่าจ้างให้ควบคุมและบริหารโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าและบริหารการดูแลรักษาโครงการมูลค่าสัญญา 2,181.7 ล้านบาท จากบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และจดหมายแจ้งขอสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นภายในวงเงินไม่เกิน 1,650 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้เพิ่มจากวงเงินกู้ที่ CKET ได้รับมาจากสถาบันการเงิน
โดย CKET ต้องดำเนินการชำระคืนเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงินผู้ให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อโครงการดังกล่าวให้ครบจำนวนก่อน แล้วจึงจะนำเงินส่วนที่เหลือมาชำระคืนให้แก่ผู้ถือหุ้น แต่เนื่องจาก CKET มีรายการให้เงินทดรองในการเริ่มดำเนินการให้แก่บริษัท 2 แห่ง ทำให้ CKET นำหลักทรัพย์ค้ำประกันกับสถาบันการเงิน 1,675 ล้านบาท ขณะที่บริษัท 2 แห่งดังกล่าวได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในปี 2550 ทำให้โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถดำเนินงานได้ตามแผนงานทําให้การชําระหนี้ดังกล่าวต้องล่าช้าออกไป ส่งผลให้CKET ต้องพิจารณาขยายระยะเวลาชำระคืนเงินให้กู้ยืมให้แก่เจ้าหนี้ ดังนั้น หนี้ที่มีกับ CK คงเหลือหนี้สิ้นปี 50 คือ 1,115,972,672 บาท ซึ่งแปลงหนี้ระยะสั้นเป็นระยะยาวอันจะครบกำหนดชำระคืน 30 กันยายน 52 พร้อมรับดอกเบี้ยเพิ่ม 1 %
3. การขยายระยะเวลาชำระคืนเงินให้กู้ยืมแก่ CKAE และ CKET นั้น CK จำเป็นต้องขยายระยะเวลาการชำระคืนให้สอดคล้องกับการที่ CKAE และ CKET ขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทเจ้าหนี้ที่ผูกพันอื่น ๆ ด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะรายงานความคืบหน้าการได้รับชำระเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยจาก CKAE และ CKET ให้ทราบ พร้อมการนำส่งงบการเงิน ตั้งแต่งวดไตรมาสที่ 1/2551 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทฯ จะได้รับชำระเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยครบถ้วน
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)(CK) ได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2550 เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 51 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้บริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ลงทุนเข้าใจในรายการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนเงินให้กู้ยืมแก่กิจการที่ควบคุมร่วมกัน 2 แห่ง คือกลุ่มบริษัท ซีเคเออี คอนซอร์เตียม (CKAE) และ กิจการร่วมค้า ซีเคอีที (CKET) นั้น บริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้
1. รายละเอียดของการเข้าทำรายการให้กู้ยืมแก่กิจการร่วมค้าทั้ง 2 แห่ง
1.1 CK ทำรายการให้กู้ยืมเงินแก่ CKAE เพื่อนำไปใช้ในการลงทุนในการดำเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานกรุงเทพ ซึ่งCK ถือหุ้นอยู่ใน CKAE 98% โดยเป็นการให้เงินสนับสนุนในลักษณะของเงินกู้ยืมเงินตามสั ดส่วนการถือ หุ้นในกิจการร่วมค้า และเป็นแหล่งเงิน ที่บริษั ทฯ ได้มาจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งCK เริ่มให้การสนับสนุนเงินกู้เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 44 ในวงเงินไม่เกิน 686 ล้านบาท
1.2 CK ทำรายการให้กู้ยืมเงินแก่ CKET เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินงานโครงการควบคุมดูแลงานในส่วนการออกแบบ จัดหา ติดตั้ง ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์งานระบบ และการใช้งานของระบบรถไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ใน CKET คิดเป็น 80 % และบริษัท เอกซ์เปอร์ต ทรานสปอร์ตจำกัด (ET) (ซึ่งเป็นบริษัทย่อย 90 % ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่) ถือหุ้นคิดเป็น 20 %โดยให้สนับสนุนลักษณะของเงินกู้ยืมตามสัดส่วนการถือหุ้นในกิจการร่วมค้า และ CK เริ่มให้การสนับสนุนเงินกู้เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 45 ในวงเงินไม่เกิน1,320 ล้านบาท
2. เหตุผลและความจำเป็นที่บริษัทฯ ตกลงขยายระยะเวลาและเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนเงินให้กู้ยืมแก่กิจการร่วมค้าทั้ง 2 แห่ง
2.1 เนื่องจาก CKAE แจ้งถึงความจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในการเร่งดําเนินการก่อสร้างโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานกรุงเทพซึ่งมีมูลค่าโครงการ 3,877,661,810 บาท โดยขอวงเงินสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นตาม ซึ่งเป็นเงินกู้เพิ่มจากวงเงินกู้ที่ CKAEได้รับมาจากสถาบันการเงิน และเมื่อดำเนินการก่อสร้าง CKAE ต้องชำระคืนเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงินผู้ให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อโครงการดังกล่าวให้ครบจำนวนก่อน แล้ว CKAE จะนำเงินส่วนที่เหลือจากการดำเนินงานมาชำระคืนให้แก่ผู้ถือหุ้น
เนื่องจาก CKAE มีรายการให้กู้ยืมแก่ผู้รับเหมาช่วง ซึ่งเป็นเงินได้จากการเบิกเงินกู้จากสถาบันการเงิน เพื่อการเร่งการก่อสร้างแต่ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่ได้ตามสัญญา ทำให้กลายเป็นลูกหนี้เงินกู้ CKAE ทำให้ CKAE ยังไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ที่มีกับผู้ถือหุ้นได้ แต่ก็ได้รับการชำระหนี้คืน คงเหลือหนี้สิ้นปี 50 คือ 140,968,197 บาท ซึ่งเปลี่ยนจากหนี้ระยะสั้นเป็นระยะยาวอันจะครบกำหนดชำระคืน 31 มีนาคม 52 CK เชื่อว่า CKAE จะสามารถชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยให้แก่บริษัทฯ ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ และ ได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 1.75 % ต่อปีของเงินที่กู้ยืมนับแต่วันที่กู้จนถึงวันที่ชำระเสร็จ จึงไม่ได้ทำให้CK เสียประโยชน์จากการให้เงินกู้ดังกล่าวแต่อย่างใด
2.2 เหตุผลที่เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระคืนเงินกู้ CKET เนื่องจาก CKET ได้รับว่าจ้างให้ควบคุมและบริหารโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าและบริหารการดูแลรักษาโครงการมูลค่าสัญญา 2,181.7 ล้านบาท จากบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และจดหมายแจ้งขอสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นภายในวงเงินไม่เกิน 1,650 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้เพิ่มจากวงเงินกู้ที่ CKET ได้รับมาจากสถาบันการเงิน
โดย CKET ต้องดำเนินการชำระคืนเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงินผู้ให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อโครงการดังกล่าวให้ครบจำนวนก่อน แล้วจึงจะนำเงินส่วนที่เหลือมาชำระคืนให้แก่ผู้ถือหุ้น แต่เนื่องจาก CKET มีรายการให้เงินทดรองในการเริ่มดำเนินการให้แก่บริษัท 2 แห่ง ทำให้ CKET นำหลักทรัพย์ค้ำประกันกับสถาบันการเงิน 1,675 ล้านบาท ขณะที่บริษัท 2 แห่งดังกล่าวได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในปี 2550 ทำให้โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถดำเนินงานได้ตามแผนงานทําให้การชําระหนี้ดังกล่าวต้องล่าช้าออกไป ส่งผลให้CKET ต้องพิจารณาขยายระยะเวลาชำระคืนเงินให้กู้ยืมให้แก่เจ้าหนี้ ดังนั้น หนี้ที่มีกับ CK คงเหลือหนี้สิ้นปี 50 คือ 1,115,972,672 บาท ซึ่งแปลงหนี้ระยะสั้นเป็นระยะยาวอันจะครบกำหนดชำระคืน 30 กันยายน 52 พร้อมรับดอกเบี้ยเพิ่ม 1 %
3. การขยายระยะเวลาชำระคืนเงินให้กู้ยืมแก่ CKAE และ CKET นั้น CK จำเป็นต้องขยายระยะเวลาการชำระคืนให้สอดคล้องกับการที่ CKAE และ CKET ขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทเจ้าหนี้ที่ผูกพันอื่น ๆ ด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะรายงานความคืบหน้าการได้รับชำระเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยจาก CKAE และ CKET ให้ทราบ พร้อมการนำส่งงบการเงิน ตั้งแต่งวดไตรมาสที่ 1/2551 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทฯ จะได้รับชำระเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยครบถ้วน