ไทยเบฟเวอเรจ โชว์ยอดขายปี 2550 เท่ากับ 100,541 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2.8% ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 328 ล้านบาท หรือ 3.3% เป็น 10,383 ล้านบาท ประกาศจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นที่ 70% ของกำไรสุทธิ หรือ 0.29 บาทต่อหุ้น
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าผลประกอบการในปีที่ผ่านมามีอัตราขยายตัวเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากเป็นปีที่มีความท้าทายในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาประกอบ ทั้งการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้น กอปรกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนทางการเมือง
“การเติบโตทางธุรกิจของไทยเบฟส่วนใหญ่เป็นผลมาจากธุรกิจสุราสีที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคหันมาเลือกบริโภคสุราสีที่ผลิตในประเทศแทนสุราสีนำเข้า เพราะได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ และการเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้น โดยยอดจำหน่ายรวมของผลิตภัณฑ์ประเภทสุราก็ได้ปรับตัวสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเป็น 52,940 ล้านบาท”
ด้านยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบียร์ของไทยเบฟยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่ากว่า 47,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% จากผลิตภัณฑ์เบียร์แอลกอฮอล์ต่ำที่จำหน่ายได้กว่า 312.6 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ถึง 210.7 ล้านลิตร
ในปี 2550 ไทยเบฟได้ขยายธุรกิจไปในส่วนที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆที่ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอออล์ ตลอดทั้งปีต่อเนื่องมาสู่ปี 2551 ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท ยูไนเต็ด โปรดักส์ จำกัด ล่าสุดบริษัทฯ ยังได้ซื้อแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลัง และกาแฟกระป๋อง ด้วยการเข้าซื้อสินทรัพย์จากบริษัทแรงเยอร์ จำกัด เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งธุรกิจดังกล่าวจะได้รับประโยชน์จากเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศของไทยเบฟ นอกจากนี้ทางบริษัทได้ทำการขยายช่องทางจำหน่ายโดยการสร้างศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ห้าแห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอนาคต
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าผลประกอบการในปีที่ผ่านมามีอัตราขยายตัวเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากเป็นปีที่มีความท้าทายในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาประกอบ ทั้งการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้น กอปรกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนทางการเมือง
“การเติบโตทางธุรกิจของไทยเบฟส่วนใหญ่เป็นผลมาจากธุรกิจสุราสีที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคหันมาเลือกบริโภคสุราสีที่ผลิตในประเทศแทนสุราสีนำเข้า เพราะได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ และการเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้น โดยยอดจำหน่ายรวมของผลิตภัณฑ์ประเภทสุราก็ได้ปรับตัวสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเป็น 52,940 ล้านบาท”
ด้านยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบียร์ของไทยเบฟยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่ากว่า 47,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% จากผลิตภัณฑ์เบียร์แอลกอฮอล์ต่ำที่จำหน่ายได้กว่า 312.6 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ถึง 210.7 ล้านลิตร
ในปี 2550 ไทยเบฟได้ขยายธุรกิจไปในส่วนที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆที่ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอออล์ ตลอดทั้งปีต่อเนื่องมาสู่ปี 2551 ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท ยูไนเต็ด โปรดักส์ จำกัด ล่าสุดบริษัทฯ ยังได้ซื้อแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลัง และกาแฟกระป๋อง ด้วยการเข้าซื้อสินทรัพย์จากบริษัทแรงเยอร์ จำกัด เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งธุรกิจดังกล่าวจะได้รับประโยชน์จากเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศของไทยเบฟ นอกจากนี้ทางบริษัทได้ทำการขยายช่องทางจำหน่ายโดยการสร้างศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ห้าแห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอนาคต
