“น้ำประปาไทย” ประชุมบอร์ดวันนี้ สรุปแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ “สมโพธิ” ยังหวังเข้าระดมทุนทันไตรมาส 1/51 เตรียมเดินหน้าโรดโชว์ขายหุ้นต่างประเทศ “สิงคโปร์-ฮ่องกง” เปรยอยากให้หุ้นมีสภาพคล่องเหตุหุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภคส่วนใหญ่ไม่มีสภาพคล่อง ทำให้นักลงทุนไม่สนใจ ย้ำชัดอีสปที่จัดสรรให้พนักงาน-คณะกรรมการในราคา 1.20 บาท ไม่กระทบราคาหุ้นในกระดานแน่เหตุติดล็อกอัพ 2 ปี
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW กล่าวว่า ในวันนี้คณะกรรมการบริษัทจะมีการประชุมเพื่อพิจารณารับรองงบการเงินงวดปี 2550 รวมถึงมีการหารือเพื่อหาข้อสรุปในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งส่วนตัวยังต้องการให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้ทันไตรมาส1/51
ทั้งนี้ กระบวนการและขั้นตอนในการเข้าจดทะเบียนของบริษัทถือว่าครบถ้วนแล้ว ทั้งในเรื่องการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งที่ผ่านมาได้รับอนุมัติทั้งในเรื่องการจัดสรรหุ้นให้คณะกรรมการและพนักงานบริษัท (อีสป) รวมถึงหุ้นที่จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากคณะกรรมการบริษัทสรุปเป็นที่เรียบร้อยบริษัทจะหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อสรุปแผนในการนำเสนอข้อมูลบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นการเสนอขายหุ้นในประเทศใกล้เคียง เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น
“เรายังอยากเข้าจดทะเบียนให้ไวที่สุด แต่ตอนนี้ยังมีปัญหาจากต่างประเทศโดยเฉพาะซับไพรม์ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทำให้ในแต่ละวันเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน เราต้องการให้สถานการณ์นิ่งกว่านี้อีกหน่อย โดยในวันนี้จะมีการประชุมบอร์ดบริษัทเพื่อสรุปผลและแผนในการดำเนินการว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อใดอีกครั้ง” นายสมโพธิ กล่าว
สำหรับการถือครองของนักลงทุนต่างชาตินั้น ยังไม่ได้มีการหารือเพื่อสรุปสัดส่วนการจัดสรรหุ้นอย่างเป็นทางการ รวมทั้งไม่ได้มีการกำหนดคุณสมบัตินักลงทุนต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนสถาบันที่จะเข้ามาร่วมถือครองหุ้น แต่บริษัทต้องการที่จะกระจายหุ้นให้ทั่วถึงเพื่อให้หุ้นของบริษัทมีสภาพคล่องในการซื้อขายเนื่องจากหุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภคส่วนใหญ่มักจะเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่องจึงไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุนเมื่อเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปชำระหนี้ระยะสั้นจำนวน 3,000 ล้านบาท และที่เหลือจะใช้เพื่อขยายกำลังการผลิต โดยในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มประมาณ 1 พันกว่าล้าน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 แสนคิวต่อวัน จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3.2 แสนคิวต่อซึ่งเฉลี่ยจะใช้กำลังการผลิตในแต่ละวันที่ 2.8 แสนคิวต่อโดยในเรื่องการลงทุนนั้นจะต้องมีการหารือกับการประปาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดที่พร้อมจะลงทุนอยู่แล้วประมาณ 900 ล้านบาท
นายสมโพธิ กล่าวอีกว่า สำหรับหุ้นในส่วนที่จัดสรรให้พนักงานและคณะกรรมการบริษัทนั้นที่ราคา 1.20 บาทต่อหุ้นจะถูกห้ามซื้อขายเป็นเวลา 2 ปี จึงเชื่อว่า แม้ว่าราคาจะต่ำกว่าราคาที่บริษัทจะเสนอขายเพราะราคาดังกล่าวเป็นราคาทางบัญชีก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นที่จะเข้าซื้อขายแน่นอน เพราะพนักงานและคณะกรรมการไม่สามารถนำหุ้นออกมาขายก่อนกำหนดได้
ทั้งนี้ หุ้นที่จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 1,000 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 700 ล้านหุ้น และอีก 300 ล้านหุ้น จากผู้ถือหลักทรัพย์เดิมจำนวน 5 ราย โดยบริษัทมีทุนจดทะเบียน ณ วันที่ 4 ธ.ค.2550 จำนวน 3,990 ล้านบาท เป็นทุนที่ชำระแล้วจำนวน 3,250 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 3,250 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และภายหลังจากการเสนอขายหุ้น ESOP และให้แก่ประชาชนทั่วไปแล้ว บริษัท จะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 3,990 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 3,990 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW กล่าวว่า ในวันนี้คณะกรรมการบริษัทจะมีการประชุมเพื่อพิจารณารับรองงบการเงินงวดปี 2550 รวมถึงมีการหารือเพื่อหาข้อสรุปในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งส่วนตัวยังต้องการให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้ทันไตรมาส1/51
ทั้งนี้ กระบวนการและขั้นตอนในการเข้าจดทะเบียนของบริษัทถือว่าครบถ้วนแล้ว ทั้งในเรื่องการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งที่ผ่านมาได้รับอนุมัติทั้งในเรื่องการจัดสรรหุ้นให้คณะกรรมการและพนักงานบริษัท (อีสป) รวมถึงหุ้นที่จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากคณะกรรมการบริษัทสรุปเป็นที่เรียบร้อยบริษัทจะหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อสรุปแผนในการนำเสนอข้อมูลบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นการเสนอขายหุ้นในประเทศใกล้เคียง เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น
“เรายังอยากเข้าจดทะเบียนให้ไวที่สุด แต่ตอนนี้ยังมีปัญหาจากต่างประเทศโดยเฉพาะซับไพรม์ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทำให้ในแต่ละวันเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน เราต้องการให้สถานการณ์นิ่งกว่านี้อีกหน่อย โดยในวันนี้จะมีการประชุมบอร์ดบริษัทเพื่อสรุปผลและแผนในการดำเนินการว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อใดอีกครั้ง” นายสมโพธิ กล่าว
สำหรับการถือครองของนักลงทุนต่างชาตินั้น ยังไม่ได้มีการหารือเพื่อสรุปสัดส่วนการจัดสรรหุ้นอย่างเป็นทางการ รวมทั้งไม่ได้มีการกำหนดคุณสมบัตินักลงทุนต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนสถาบันที่จะเข้ามาร่วมถือครองหุ้น แต่บริษัทต้องการที่จะกระจายหุ้นให้ทั่วถึงเพื่อให้หุ้นของบริษัทมีสภาพคล่องในการซื้อขายเนื่องจากหุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภคส่วนใหญ่มักจะเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่องจึงไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุนเมื่อเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปชำระหนี้ระยะสั้นจำนวน 3,000 ล้านบาท และที่เหลือจะใช้เพื่อขยายกำลังการผลิต โดยในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มประมาณ 1 พันกว่าล้าน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 แสนคิวต่อวัน จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3.2 แสนคิวต่อซึ่งเฉลี่ยจะใช้กำลังการผลิตในแต่ละวันที่ 2.8 แสนคิวต่อโดยในเรื่องการลงทุนนั้นจะต้องมีการหารือกับการประปาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดที่พร้อมจะลงทุนอยู่แล้วประมาณ 900 ล้านบาท
นายสมโพธิ กล่าวอีกว่า สำหรับหุ้นในส่วนที่จัดสรรให้พนักงานและคณะกรรมการบริษัทนั้นที่ราคา 1.20 บาทต่อหุ้นจะถูกห้ามซื้อขายเป็นเวลา 2 ปี จึงเชื่อว่า แม้ว่าราคาจะต่ำกว่าราคาที่บริษัทจะเสนอขายเพราะราคาดังกล่าวเป็นราคาทางบัญชีก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นที่จะเข้าซื้อขายแน่นอน เพราะพนักงานและคณะกรรมการไม่สามารถนำหุ้นออกมาขายก่อนกำหนดได้
ทั้งนี้ หุ้นที่จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 1,000 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 700 ล้านหุ้น และอีก 300 ล้านหุ้น จากผู้ถือหลักทรัพย์เดิมจำนวน 5 ราย โดยบริษัทมีทุนจดทะเบียน ณ วันที่ 4 ธ.ค.2550 จำนวน 3,990 ล้านบาท เป็นทุนที่ชำระแล้วจำนวน 3,250 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 3,250 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และภายหลังจากการเสนอขายหุ้น ESOP และให้แก่ประชาชนทั่วไปแล้ว บริษัท จะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 3,990 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 3,990 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท