xs
xsm
sm
md
lg

“ฉลองภพ” เตือนสติ รบ.ใหม่ ละเลงงบ ต้องใช้ความรอบคอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์
รมว.คลัง แนะรัฐบาลใหม่ ต้องใช้ความรอบคอบ หากต้องการเพิ่มการขาดดุลงบประมาณ และลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนการยกเลิกมาตรการ 30% คงเป็นหน้าที่ รมว.คลังคนใหม่ เข้ามาพิสูจน์ฝีมือ

วันนี้ (28 ม.ค.) นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาต้องพิจารณาถึงผลดี-ผลเสีย ให้รอบคอบ ว่า หากเพิ่มการขาดดุลงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แล้วจะนำไปใช้จ่ายอย่างไร และจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด ที่สำคัญ ต้องพิจารณาถึงฐานะการคลังด้วย เพราะตามรัฐธรรมนูญปี 2550 มีการให้สิทธิประชาชนในหลายด้าน จึงต้องพิจารณาภาพรวมว่าจะตั้งงบประมาณขาดดุลได้มากน้อยแค่ไหน

ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนเสนอลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น ต้องดูภาพรวมเช่นกัน ว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลเป็นอย่างไร จะสามารถปรับลดภาษีได้มากน้อยเท่าใด แม้ว่าเศรษฐกิจไทยขณะนี้พื้นฐานยังดีอยู่มากก็ตาม แต่จากผลกระทบของสหรัฐฯที่เกิดขึ้นส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงมาก

นายฉลองภพ ยังกล่าวถึงกรณีธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา(เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.75 ซึ่งอาจส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าประเทศไทยจำนวนมาก และเป็นแรงผลักดันให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้ว่า ขณะนี้ยังคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น เพราะยังคงมีมาตรการกองทุนสำรองร้อยละ 30 สำหรับการนำเงินมาลงทุนตลาดตราสารหนี้ ซึ่งจะช่วยลดทอนความดึงดูดใจในการดำเนินเข้ามาลงทุนภายในประเทศขณะที่การซื้อขายตลาดหุ้นทั่วโลกก็ไม่เอื้ออำนวยเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของไทยตามเฟดนั้น นับเป็นเครื่องมือหนึ่งที่คณะกรรมการนโยบายการเงินจะต้องนำไปพิจารณา เช่นเดียวกับการพิจารณายกเลิกมาตรการ กันเงินทุนสำรองร้อยละ 30ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ อย่างไรก็ตาม ภาวะการแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้เกิดจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจำนวนมาก ไม่ใช่การแข็งค่าของทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น