เงินบาทเปิดตลาด 33.03/05 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว นักค้าเงิน ชี้ ยังมีแรงขายดอลลาร์ออกมาต่อเนื่อง ธปท.เสือปืนไว โดดเข้าแทรกแซงตลาดทันควัน ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าทันที โดยลงมาอยู่ที่ระดับ 33.09 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
วันนี้ (21 ม.ค.) นักบริหารเงินจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาวะตลาดเงินเช้าวันนี้ โดยระบุว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.03/05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.04/06 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากมีแรงซื้อบาทเข้ามามาก
“โดยเช้าวันนี้ เงินบาทเปิดตลาดปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเย็นวันศุกร์ เนื่องจากยังมีแรงขายเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง จากนั้นเงินบาทก็ค่อยๆ ปรับตัวอ่อนค่าลง”
อย่างไรก็ตาม นักบริหารเงินคาดการณ์ว่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้อีก แม้ว่าที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเข้าไปดูแลอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มในวันนี้ คาดว่า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.10 บาท/ดอลลาร์ โดยขณะนี้เงินบาท อยู่ที่ 33.07/08 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเงินเยน อยู่ที่ 106.89/93 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินยูโร อยู่ที่ 1.4555/4559 ดอลลาร์ต่อยูโร
ด้านนักวิเคราะห์ เชื่อว่า การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ 11 ปี ในวันนี้ เกิดจากแรงเทขายดอลลาร์ของผู้ส่งออก หลังรัฐบาลของสหรัฐฯ มีการใช้เม็ดเงินแก้ปัญหาซับไพรม์สูงถึง145,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเชื่อว่า การแข็งค่าอีกรอบในวันนี้ เป็นผลมาจากแรงเทขายของผู้ส่งออกที่เกรงว่า เงินบาทจะแข็งค่ามากขึ้น
“การที่ผู้ส่งออกเทขาย เนื่องจากเห็นว่า มาตรการแก้ไขปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพร์ม) ของสหรัฐฯ ที่มีการใช้เม็ดเงินสูงถึง 145,000-150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้รับการตอบรับจากตลาดเท่าที่ควร จะเห็นได้จากตลาดหุ้นสหรัฐฯลดลง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา”
อย่างไรก็ตาม จากการแข็งค่าของเงินบาท ได้มีแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐฯจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 33.09 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่า หาก ธปท.ไม่เข้ามาแทรกแซงเงินบาทวันนี้คงหลุดระดับ 33 บาทแล้ว และจุดนี้เป็นจุดรับที่สำคัญที่ ธปท.ไม่ต้องการเห็นเงินบาทแข็งค่าไปมากกว่านี้
วันนี้ (21 ม.ค.) นักบริหารเงินจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาวะตลาดเงินเช้าวันนี้ โดยระบุว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.03/05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.04/06 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากมีแรงซื้อบาทเข้ามามาก
“โดยเช้าวันนี้ เงินบาทเปิดตลาดปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเย็นวันศุกร์ เนื่องจากยังมีแรงขายเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง จากนั้นเงินบาทก็ค่อยๆ ปรับตัวอ่อนค่าลง”
อย่างไรก็ตาม นักบริหารเงินคาดการณ์ว่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้อีก แม้ว่าที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเข้าไปดูแลอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มในวันนี้ คาดว่า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.10 บาท/ดอลลาร์ โดยขณะนี้เงินบาท อยู่ที่ 33.07/08 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเงินเยน อยู่ที่ 106.89/93 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินยูโร อยู่ที่ 1.4555/4559 ดอลลาร์ต่อยูโร
ด้านนักวิเคราะห์ เชื่อว่า การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ 11 ปี ในวันนี้ เกิดจากแรงเทขายดอลลาร์ของผู้ส่งออก หลังรัฐบาลของสหรัฐฯ มีการใช้เม็ดเงินแก้ปัญหาซับไพรม์สูงถึง145,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเชื่อว่า การแข็งค่าอีกรอบในวันนี้ เป็นผลมาจากแรงเทขายของผู้ส่งออกที่เกรงว่า เงินบาทจะแข็งค่ามากขึ้น
“การที่ผู้ส่งออกเทขาย เนื่องจากเห็นว่า มาตรการแก้ไขปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพร์ม) ของสหรัฐฯ ที่มีการใช้เม็ดเงินสูงถึง 145,000-150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้รับการตอบรับจากตลาดเท่าที่ควร จะเห็นได้จากตลาดหุ้นสหรัฐฯลดลง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา”
อย่างไรก็ตาม จากการแข็งค่าของเงินบาท ได้มีแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐฯจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 33.09 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่า หาก ธปท.ไม่เข้ามาแทรกแซงเงินบาทวันนี้คงหลุดระดับ 33 บาทแล้ว และจุดนี้เป็นจุดรับที่สำคัญที่ ธปท.ไม่ต้องการเห็นเงินบาทแข็งค่าไปมากกว่านี้