รมว.คลัง หวั่น นโยบายประชานิยมพรรคการเมือง กระทบฐานะการเงิน-การคลัง ในอนาคต แนะ ธปท.ต้องศึกษากรอบนโยบายแต่ละพรรคอย่างรอบคอบ สำหรับปัญหาเงินบาทแข็งค่า ยังไม่น่าห่วง เชื่อ ธปท.จัดการได้
วันนี้ (7 ม.ค.) นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากนโยบายประชานิยมของแต่ละพรรคการเมืองที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงไปสู่เศรษฐกิจฐานรากเป็นจำนวนมาก และอาจกระทบต่อภาวะการคลังของประเทศหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องศึกษากรอบนโยบายการเงินการคลังของแต่ละพรรคการเมืองให้รอบคอบ คำนวณเม็ดเงินที่จะนำลงไปสู่เศรษฐกิจฐานราก ว่า ในระดับใดเหมาะสม และไม่กระทบต่อภาวะการคลังของประเทศ รวมทั้งสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังไม่ได้แสดงความเห็นต่อรายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ว่าจะเป็นใคร
นายฉลองภพ ยังกล่าวถึงปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากว่าไม่ได้แข็งค่าเกินกว่า 20 สตางค์ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และขณะนี้ ธปท.กำลังติดตามดูอยู่ ซึ่งเชื่อว่า จะบริหารจัดการค่าเงินได้ดี นอกจากนี้เงินบาทยังแข็งค่าขึ้นอยู่ตามค่าเงินในภูมิภาค
โดยล่าสุด ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เช้านี้ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยเคลื่อนไหวอยู่ที่ 33.24-33.44 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากผู้ส่งออกยังคงเทขายดอลลาร์สหรัฐฯ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
นักค้าเงิน คาดว่า สัปดาห์นี้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่อง โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 33.35-33.45 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของ ธปท.ว่า จะเข้ามาแทรกแซงค่าเงินหรือไม่ อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับการพิจารณาผลการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อีกด้วย