สแตนชาร์ตรุกขยายฐานสินเชื่อบ้าน ด้วยการเปิดตัวสินเชื่อบ้านรูปแบบใหม่ “มอร์เกจลิงก์” ที่จะช่วยให้ลูกค้าผ่อนบ้านได้หมดเร็วขึ้น คาดปล่อยสินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ปีนี้ 6,000-8,000 ล้านบาท
นายยุทธชัย เตยะราชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดตัวสินเชื่อบ้านรูปแบบใหม่ “มอร์เกจลิงก์ (Mortgage Link)” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เสนอโบนัสพิเศษกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อนำมาลดเงินกู้ของสินเชื่อบ้าน ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระในการผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น
โดยลูกค้าสามารถนำบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และบัตรเครดิต ทั้งของตัวเองและคนในครอบครัวเข้ามาร่วมโปรแกรมสินเชื่อบ้านได้สูงสุดอย่างละไม่เกิน 5 บัญชี โดยที่เจ้าของบัญชียังคงได้รับดอกเบี้ยปกติจากบัญชีออมทรัพย์ และยังได้รับคะแนนสะสมปกติในการใช้จ่ายบัตรเครดิต ส่วนลูกค้าจะได้รับโบนัสพิเศษจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อนำไปลดเงินกู้สินเชื่อบ้าน
สำหรับสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ ประกอบด้วย สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ต่อปีแรก และปีต่อไปคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ 6.4% นอกจากนี้ ยังได้โบนัสพิเศษจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 1% ต่อปีในปี 2551 จากนั้น 0.5% ต่อปี ในปี 2552 เป็นต้นไป โดยยอดเงินฝากที่นำมาคำนวณจะอิงจากยอดเงินฝากเฉลี่ยต่อเดือนในแต่ละเดือนของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ร่วมโปรแกรมสินเชื่อบ้านมอร์เกจลิงก์ ไม่เกินบัญชีละ 1 ล้านบาท สูงสุด 5 บัญชี
ส่วนโบนัสพิเศษที่มาจากบัตรเครดิตนั้น จะคิดจากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทุกใบสูงสุดไม่เกิน 5 บัญชี ที่เข้าร่วมโปรแกรมสินเชื่อบ้านมอร์เกจลิงก์ โบนัสพิเศษที่ได้รับเท่ากับ 1% ต่อเดือนตลอดปี 2551 จากนั้น 0.5% ต่อเดือนในปี 2552 เป็นต้นไป โดยเจ้าของบัตรยังคงได้รับคะแนนสะสมปกติจากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเหมือนเดิม
“สินเชื่อนี้ได้ออกแบบมาโดยเฉพาะให้ทุกคนในครอบครัวได้มีส่วนช่วยให้เป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น เพียงธนาคารตรวจสอบ และยืนยันความสัมพันธ์ได้ โดยระยะเวลาการผ่อนชำระปกติของธนาคารจะให้อยู่ที่ 30 ปี แต่หากเข้าร่วมโครงการนี้แล้วซึ่งในส่วนโบนัสพิเศษต่างๆ ที่ได้รับธนาคารจะนำเข้าไปไว้ในส่วนของสินเชื่อบ้าน คือ ลูกค้ายังคงมีการผ่อนชำระในจำนวนปกติ ส่วนโบนัสที่ได้ธนาคารก็จะนำไปหักให้เพิ่มเติมทั้งในส่วนของเงินต้นและอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามโปรแกรมที่ธนาคารระบุไว้ก็จะช่วยย่นเวลาการผ่อนชำระลงได้เหลือ 27 ปี” นายยุทธชัย กล่าว
นายยุทธชัย กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ในปีนี้ไว้ที่ 6,000-8,000 ล้านบาท ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างคาดว่าจะเติบโต 80% จากปีที่ผ่านมา โดยในงวด 9 เดือนของปี 2550 นั้น ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท แต่ในช่วงไตรมาสุดท้ายธนาคารได้มีการออกแคมเปญ 3 ชัวร์ ทำให้ยอดในโดยรวมในสิ้นปี 2550 มีการเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
สำหรับสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อรายย่อยของธนาคารในปีนี้ คาดว่า สินเชื่อบ้านจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30% จากปีก่อนอยู่ที่ 20% บัตรเครดิต 15% เท่ากับปีก่อน และสินเชื่อบุคคลจะอยู่ที่ 55% จากปีก่อนอยู่ที่ 65% โดยสินเชื่อบ้านจะเป็นส่วนที่ธนาคารให้ความเน้นหนักมากขึ้น
ส่วนภาพรวมของสินเชื่อบ้านทั้งระบบในปีนี้ คาดว่า จะปรับตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ภาพรวมมีการลดลง โดยในปี 2548 ยอดสินเชื่อบ้านทั้งระบบอยู่ที่ 280,000 ล้านบาท ปี 2549 อยู่ที่ 260,000 ล้านบาท และปี 2550 อยู่ที่ 275,000 ล้านบาท ส่วนของปีนี้จะเติบโตเท่าไหร่เป็นเรื่องที่คาดเดาไว้ยาก เพราะต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจว่าเป็นอย่างไร
นายยุทธชัย เตยะราชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดตัวสินเชื่อบ้านรูปแบบใหม่ “มอร์เกจลิงก์ (Mortgage Link)” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เสนอโบนัสพิเศษกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อนำมาลดเงินกู้ของสินเชื่อบ้าน ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระในการผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น
โดยลูกค้าสามารถนำบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และบัตรเครดิต ทั้งของตัวเองและคนในครอบครัวเข้ามาร่วมโปรแกรมสินเชื่อบ้านได้สูงสุดอย่างละไม่เกิน 5 บัญชี โดยที่เจ้าของบัญชียังคงได้รับดอกเบี้ยปกติจากบัญชีออมทรัพย์ และยังได้รับคะแนนสะสมปกติในการใช้จ่ายบัตรเครดิต ส่วนลูกค้าจะได้รับโบนัสพิเศษจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อนำไปลดเงินกู้สินเชื่อบ้าน
สำหรับสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ ประกอบด้วย สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ต่อปีแรก และปีต่อไปคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ 6.4% นอกจากนี้ ยังได้โบนัสพิเศษจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 1% ต่อปีในปี 2551 จากนั้น 0.5% ต่อปี ในปี 2552 เป็นต้นไป โดยยอดเงินฝากที่นำมาคำนวณจะอิงจากยอดเงินฝากเฉลี่ยต่อเดือนในแต่ละเดือนของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ร่วมโปรแกรมสินเชื่อบ้านมอร์เกจลิงก์ ไม่เกินบัญชีละ 1 ล้านบาท สูงสุด 5 บัญชี
ส่วนโบนัสพิเศษที่มาจากบัตรเครดิตนั้น จะคิดจากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทุกใบสูงสุดไม่เกิน 5 บัญชี ที่เข้าร่วมโปรแกรมสินเชื่อบ้านมอร์เกจลิงก์ โบนัสพิเศษที่ได้รับเท่ากับ 1% ต่อเดือนตลอดปี 2551 จากนั้น 0.5% ต่อเดือนในปี 2552 เป็นต้นไป โดยเจ้าของบัตรยังคงได้รับคะแนนสะสมปกติจากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเหมือนเดิม
“สินเชื่อนี้ได้ออกแบบมาโดยเฉพาะให้ทุกคนในครอบครัวได้มีส่วนช่วยให้เป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น เพียงธนาคารตรวจสอบ และยืนยันความสัมพันธ์ได้ โดยระยะเวลาการผ่อนชำระปกติของธนาคารจะให้อยู่ที่ 30 ปี แต่หากเข้าร่วมโครงการนี้แล้วซึ่งในส่วนโบนัสพิเศษต่างๆ ที่ได้รับธนาคารจะนำเข้าไปไว้ในส่วนของสินเชื่อบ้าน คือ ลูกค้ายังคงมีการผ่อนชำระในจำนวนปกติ ส่วนโบนัสที่ได้ธนาคารก็จะนำไปหักให้เพิ่มเติมทั้งในส่วนของเงินต้นและอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามโปรแกรมที่ธนาคารระบุไว้ก็จะช่วยย่นเวลาการผ่อนชำระลงได้เหลือ 27 ปี” นายยุทธชัย กล่าว
นายยุทธชัย กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ในปีนี้ไว้ที่ 6,000-8,000 ล้านบาท ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างคาดว่าจะเติบโต 80% จากปีที่ผ่านมา โดยในงวด 9 เดือนของปี 2550 นั้น ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท แต่ในช่วงไตรมาสุดท้ายธนาคารได้มีการออกแคมเปญ 3 ชัวร์ ทำให้ยอดในโดยรวมในสิ้นปี 2550 มีการเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
สำหรับสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อรายย่อยของธนาคารในปีนี้ คาดว่า สินเชื่อบ้านจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30% จากปีก่อนอยู่ที่ 20% บัตรเครดิต 15% เท่ากับปีก่อน และสินเชื่อบุคคลจะอยู่ที่ 55% จากปีก่อนอยู่ที่ 65% โดยสินเชื่อบ้านจะเป็นส่วนที่ธนาคารให้ความเน้นหนักมากขึ้น
ส่วนภาพรวมของสินเชื่อบ้านทั้งระบบในปีนี้ คาดว่า จะปรับตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ภาพรวมมีการลดลง โดยในปี 2548 ยอดสินเชื่อบ้านทั้งระบบอยู่ที่ 280,000 ล้านบาท ปี 2549 อยู่ที่ 260,000 ล้านบาท และปี 2550 อยู่ที่ 275,000 ล้านบาท ส่วนของปีนี้จะเติบโตเท่าไหร่เป็นเรื่องที่คาดเดาไว้ยาก เพราะต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจว่าเป็นอย่างไร