xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.เฟด ส่งสัญญาณลด ดบ. "หุ้น-ทองคำ" พุ่งกระฉูดทันตาเห็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 11.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ก็ปรับเพิ่มขึ้นทันที 117.78 จุด เมื่อคืนนี้ หลังนายเบน เบอร์นันกี ปธ.เฟด ออกมาส่งสัญญาณว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงทันตาเห็น และดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้อขายในหุ้นและตลาดทองคำอย่างคึกคึก

วันนี้(11 ม.ค.) สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ.ปิดที่ 893.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 11.90 ดอลลาร์ หลังจากนายเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง และดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้อขายในตลาดทองคำอย่างคึกคึก โดยราคาทองคำได้ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 897.30 ดอลลาร์ ในระหว่างชั่วโมงซื้อขาย

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค.ปิดที่ 16.275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 43.5 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ปิดที่ระดับ 3.2815 ดอลลาร์ต่อปอนด์

ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,562.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 380.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 1.80 ดอลลาร์

โดยวานนี้ นายเบอร์นันกี ออกมาระบุว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการมากขึ้นอีกหากจำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้น และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะไม่เผชิญความเสี่ยงช่วงขาลง ซึ่งก่อนหน้านี้เศรษฐกิจสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ"

ด้านนายจอห์น แนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทคิทโก บุลเลียน ดีลเลอร์ส กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ทำให้นักวิเคราะห์บางคนคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในการประชุมวันที่ 29-30 ม.ค.นี้ แต่ก็มีนักวิเคราะห์บางคนคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% เนื่องจากราคาน้ำมันยังเคลื่อนไหวในระดับสูง ซึ่งทำให้เฟดกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

"กระแสคาดการณ์ที่ผันผวนและความวิตกกังวลในเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐอาจทำให้ราคาทองแกว่งตัวและเคลื่อนไหวในช่วงกว้างๆ"

สำหรับภาวะการซื้อขายหุ้นในสหรัฐ เมื่อคืนนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 117.78 จุด หรือ 0.92% โดยปิดที่ 12,853.09 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 11.20 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 1,420.33 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 13.97 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 2,488.52 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 2.06 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

นายไรอัน ลาร์สัน นักวิเคราะห์จากบริษัทโวแย็ก แอสเซท เมนเนจเมนท์กล่าวว่า "ดาวโจนส์ทะยานขึ้นเกือบ 120 จุดหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า การเจรจาของแบงก์ ออฟ อเมริกา ที่จะเข้าเทคโอเวอร์กิจการคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลนั้น มีความคืบหน้ามาก นักลงทุนขานรับข่าวดังกล่าวทันที เพราะในช่วงที่ผ่านมานั้นตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อและตลาดปล่อยกู้จำนอง และปัญหาในบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ก็ฉุดตลาดร่วงลงเมื่อหลายวันก่อน

"ข่าวเทคโอเวอร์กิจการคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ช่วยคลายความกังวลจากข่าวลือที่ว่าคันทรีไวด์กำลังจะล้มละลาย เราคาดว่านักลงทุนจะจับตาดูความเคลื่อนไหวบริษัทปล่อยกู้จำนองอย่างใกล้ชิดในระยะนี้"

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้น หลังจากเบอร์นันกี ปธ.เฟด ส่งสัญญาณว่า เฟดพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยระบุว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการมากขึ้นอีกหากจำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้น และเมื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะไม่เผชิญความเสี่ยงช่วงขาลง
กำลังโหลดความคิดเห็น