กลายเป็นเรื่องราวสุดดราม่าในวงการฟุตซอลลีกของไทย เมื่อแฟนบอล บลูเวฟ ชลบุรี บางราย กระทำตัวไม่เหมาะสม หยิบเรื่องศาสนามาล้อเล่น ชูหมูสามชั้นใส่ทีมแบงค็อก บีทีเอส ซึ่งมีนักเตะ และผู้บริหารหลายคนเป็นชาวมุสลิม จนเกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมฟุตซอลไทยลีก ฤดูกาล 2025 นัดที่ 11 ที่ บลูเวฟ ชลบุรี พบ แบงค็อก บีทีเอส เอฟซี เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเกมแมตช์ดังกล่าวแข่งขันกันที่รังเหย้าของทีม "ฉลามโต๊ะเล็ก" ซึ่งแฟนบอลบางรายนำหมูสามชั้นใส่ถุงพลาสติก ก่อนดึงออกมาโชว์ใส่ผู้เล่นฝั่งตรงข้าม ที่มีคนนับถือศาสนาอิสลามอยู่หลายคน
โดยทาง แบงค็อก บีทีเอส เอฟซี ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าว มีใจความดังนี้
“ฝากถึงสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และแฟนคลับฟุตซอลทั่วประเทศ พิจารณาพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับกลุ่มกองเชียร์ ชลบุรีบลูเวฟ (บางส่วน)”
“เกมการแข่งขันฟุตซอลลีก นัดที่ 11 ระหว่างสโมสรแบงค็อกบีทีเอส เอฟซี กับ สโมสรชลบุรีบลูเวฟ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ณ สนามเหย้าสโมสรชลบุรีบลูเวฟ ได้มีกลุ่มกองเชียร์ สโมสรชลบุรีบลูเวฟ นำเนื้อหมูสามชั้นใส่ถุงพลาสติก แล้วดึงออกมาโชว์ ในลักษณะของการ เหยียด ดูหมิ่นและเย้ยหยันอันเนื่องมาจาก ผู้จัดการสโมสร แบงค็อกบีทีเอส เป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม และกลุ่มบุคลากรนักกีฬาส่วนใหญ่ ในสโมสร ก็เป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม พฤติกรรมและการกระทำดังกล่าว เป็นการ เอาสิ่งที่ผิดต่อหลักการของศาสนาอิสลาม มา เหยียด ดูหมิ่นและเย้ยหยัน เพื่อสร้างความ สะใจให้กลุ่มกองเชียร์ของตนเอง ซึ่งเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องที่ผิดปกติวิสัย ของการเชียร์กีฬาทั่วไป เพราะเรื่องหลักการศาสนาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและกระทบต่อความรู้สึกผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นอย่างมาก ไม่เฉพาะต่อผู้จัดการทีมบุคลากรและนักกีฬาของสโมสรเท่านั้น การกระทำดังกล่าว เพียงประสงค์ ต้องการจะดูหมิ่น เพื่อสร้างความสะใจ ให้กับตนเอง และกลุ่มกองเชียร์ของสโมสรของตนเองเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงความเสื่อมเสียและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะในแวดวงของการเชียร์กีฬา ซึ่งเรื่อง Spirit ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องดังกล่าวนี้ถ้าบุคคลที่นับถือศาสนาอิสลามได้รับรู้ รับทราบอย่างกว้างขวางจะยิ่งส่งผลให้เกิดความเสื่อมเสียและเสียหายอย่างรุนแรงสำหรับการแข่งขันฟุตซอลลีกเป็นอย่างยิ่ง”
“การกระทำดังกล่าวนี้กระผม นาย วสันต์ มีวงษ์ (ผู้จัดการทีมสโมสร แบงค็อก บีทีเอส เอฟซี) รู้สึกเสียใจและเสียความรูัสึกเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่า แฟนคลับสโมสรชั้นนำอย่าง ชลบุรี บลูเวฟ จะทำเรื่องแบบนี้ให้เกิดขึ้นในวงการฟุตซอล ซึ่งกระผมทำฟุตซอลมา 10 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์เหล่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้”
หลังเกิดเหตุดราม่า บลูเวฟ ชลบุรี ก็ออกแถลงการณ์ขอโทษทีม แบงค็อก บีทีเอส ทันที โดยมีใจความดังนี้
ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ในเกมการแข่งขันฟุตซอลลีก นัดที่ 11 ระหว่างสโมสรแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี กับ สโมสรบลูเวฟ ชลบุรี เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ณ สนามเหย้า ของสโมสร บลูเวฟ ชลบุรี ซึ่งมีกลุ่มกองเชียร์บางส่วนของสโมสร ได้แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ด้วยการนำสิ่งของที่ขัดต่อหลักความเชื่อทางศาสนา ออกมาแสดงในเชิงล้อเลียนต่อสโมสรคู่แข่ง อันเป็นการกระทำที่ขาดความเคารพ ไม่คำนึงถึงความละเอียดอ่อนของเรื่องศาสนา และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความรู้สึกของผู้จัดการทีม นักกีฬา เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม โดยรวม
สโมสร บลูเวฟ ชลบุรี ใคร่ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอโทษอย่างจริงใจ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยขออภัยมายัง
• สโมสรแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี
• คุณวสันต์ มีวงษ์ ผู้จัดการทีม
• นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกท่าน
• แฟนคลับของสโมสรแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี
• แฟนฟุตซอลทั่วประเทศ
• และพี่น้องชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามทุกท่าน
พฤติกรรมของกองเชียร์บางกลุ่มที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่ใช่สิ่งที่สโมสรสนับสนุนหรือยอมรับ และไม่สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของสโมสร บลูเวฟ ชลบุรี ที่ยึดมั่นในหลักการ ของน้ำใจนักกีฬา ความเคารพซึ่งกันและกัน และการอยู่ร่วมกันอย่างมีเกียรติในวงการกีฬาไทย
เราขอยอมรับผิดในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และในฐานะองค์กรที่ควรดูแลบรรยากาศในการเชียร์ให้มีความเหมาะสมและเป็นบวก ซึ่งเราตระหนักดีว่าได้เกิดความบกพร่องขึ้น และจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอย่างเด็ดขาด
สโมสรจะดำเนินการสอบสวน และจัดมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก รวมถึงให้ความรู้กับแฟนคลับเกี่ยวกับความสำคัญของศาสนา ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการให้เกียรติคู่แข่งขันในทุกมิติ
ท้ายที่สุดนี้ สโมสร บลูเวฟ ชลบุรี ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งอย่างสุดหัวใจ และขอใช้โอกาสนี้แสดงเจตจำนงที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่น สร้างบรรยากาศแห่งมิตรภาพ ในวงการฟุตซอลไทย ต่อไป