ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ แจงดราม่าเงินรางวัลอัดฉีดทีมฟุตบอลชายซีเกมส์ 2023 ล่าช้ายังไม่ถึงมือนักกีฬา เพราะมีการพิจารณาเพิ่มเติมเพื่อทบทวนเรื่องของการหักเงินรางวัลอัดฉีดบางส่วนของนักกีฬาบางคนที่กระทำความผิด โดยสมาคมกีฬาฟุตบอล และนักกีฬายินยอมให้มีการหักเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ชี้เงินรางวัลทั้งหมดได้มีการอนุมัติ และกันเอาไว้ให้นักกีฬา และทีมโค้ชแล้ว เพียงแต่ต้องรอเข้าที่ประชุมบอร์ดกองทุนฯเพื่อทำการ กลั่นกรองและพิจารณาอีกรอบ ก่อนมีการโอนให้กับทีมนักกีฬา
ความคืบหน้าเรื่อเงินรางวัลอัดฉีดจากแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ซึ่งทีมฟุตบอลชาย ชุดรองแชมป์ซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา เป็นทีมกีฬาเดียวที่ยังไม่ได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ภายหลังก่อเหตุเหตุฉาว ทะเลาะวิวาทกับนักเตะและทีมโค้ชของอินโดนีเซีย ในแมตช์ชิงชนะเลิศ เมื่อเดือน พ.ค. 2023 จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก โดยเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา หลังเวลาผ่านมาเกือบ 8 เดือนแล้วแต่นักฟุตบอลทีมชาติไทย ยังไม่ได้รับเงินส่วนดังกล่าว ทั้งที่มีการพิจารณาบทลงโทษออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เผยว่า ในส่วนของเงินรางวัลของทีมกีฬาอื่นๆ หรือในมหรรมกรรมกีฬาอื่นๆ ทางกองทุนฯเร่งรัดเบิกจ่ายให้กับนักกีฬา และคณะนักกีฬาทันทีที่จบมหกรรมการแข่งขัน ซึ่งก็ไม่มีปัญหาเรื่องการค้างจ่ายเงินรางวัล ทั้งนี้ก็เพราะหากนักกีฬาปฏิบัติตามกฎและระเบียบของคณะกรรมการการแข่งขันในมหกรรมกีฬานั้น ส่วนที่ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย แจ้งมาว่า มีการส่งหนังสือทวง ถามมากว่า 20 ฉบับนั้น กองทุนฯไม่ได้รับถึง 20 ฉบับขนาดนั้นแน่นอน
"เรื่องเงินรางวัลเรามีเงินรางวัลที่จะมอบให้กับทีมฟุตบอลชาย ซึ่งก็กันเอาไว้แล้ว เพียงแต่ในช่วงการประชุมบอร์ดกองทุนฯเพื่อพิจารณาอนุมัติเงินรางวัลซีเกมส์ในเวลานั้นร่วมกับสมาคมกีฬาอื่นๆ กองทุนฯยังไม่ได้รับผลการพิจารณาจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี อย่างไรก็ตาม กองทุนฯ มีการประสานงานกันสมาคมฟุตบอลฯอยู่ต่อเนื่อง เพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเอเอฟซี ซึ่งทางสมาคมแจ้งว่าได้ส่งให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้กำกับดูแลสมาคม ซึ่งภายหลังเราได้เอกสาร ก็พบว่านักกีฬาของไทย มีการถูกลงโทษจริงๆ ซึ่งก็หมายความว่ากระทำผิดกฎของฟุตบอล"
"ภายหลังได้เอกสาร ทางกองทุนฯได้ประสานกับสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งสมาคมฟุตบอลฯได้สอบถามถึงความเป็นไปได้ในการจ่ายเงินให้กับนักกีฬาทุกคน ซึ่งทางกองทุนฯรับทราบ และได้มีการนำเสนอในคณะอนุกรรมการสวัสดิการและเงินรางวัล ซึ่งก็มีการประชุมครบองค์ประชุม และมีมติตามที่สมาคมฟุตบอลฯนำเสนอว่า ในส่วนของนักกีฬาก็จะให้นักกีฬาทุกคน ส่วนบุคลากรกีฬาก็จะให้ทุกคนเช่นกัน และจะให้สมาคมไปกระจายเงินรางวัลนี้เอง"
"ทว่าในส่วนของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯก็ยืนยันว่า ยินยอมจะให้มีการหักเงินรางวัลบางส่วนของสมาคม และนักกีฬาที่กระทำความผิดจากเหตุการณ์นั้น โดยมีหนังสือมาถึงกองทุนฯด้วย ซึ่งตรงนี้ก็คงต้องมีการพิจารณากันอีก แต่คงไม่ได้หักเยอะ ซึ่งในครั้งนี้ก็จะมีการประชุมกันในเร็วๆนี้อีกหน และเมื่อมีผลประชุมแล้ว ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยได้สัญญาไว้ พอมีผลประชุมออกมา ก็จะมีการจ่ายเงินรางวัลให้กับนักกีฬาทันที"
"เรามั่นใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน และจากบทเรียนครั้งนี้ เราก็อยากจะขอร้องให้นักกีฬา บุคลากรกีฬา และก็สมาคมกีฬา ที่นำพานักกีฬาไทยไปแข่งนอกราชอาณาจักร โดยเฉพาะมหกรรมกีฬา ควรต้องมีความอดกลั้นและอดทน เพราะเวลาเกิดเหตุแบบนี้แล้ว มันไม่ได้สร้างชื่อเสียง มีแต่สร้างชื่อเสีย ยิ่งมีการถ่ายทอดออกไปมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ประเทศไทยถูกประนาม ซึ่งเราก็ทำหน้าที่ของเรา อยู่ๆถ้ากระทำผิดเกิดขึ้น และทางกองทุนฯไม่ทำการกลั่นกรอง แล้วต่อไปเวลามีเหตุการณ์แบบนี้อีก จะเป็นอย่างไร ก็อยากให้ประชาชนคนไทมให้ความเป็นธรรมกับการทำงานของกองทุนฯ และกกท.ในเรื่องนี้ด้วย" ดร.สุปราณี กล่าวทิ้งท้าย