เกาหลีใต้ โกงความตายได้จุดโทษช่วงทดเจ็บ ไล่ตีเสมอ ออสเตรเลีย 1-1 ก่อนที่ ซน เฮือง-มิน จะสวมบทฮีโร่ซัดฟรีคิกงามหยดช่วงต่อเวลาพิเศษ พา "โสมขาว" เฉือนชนะ "จิงโจ้" 2-1 ลิ่วรอบตัดเชือกไปชน จอร์แดน
ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย "เอเชียน คัพ 2023" วันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เกมบิ๊กแมตช์ ออสเตรเลีย พบ เกาหลีใต้ แข่งขันกันที่ อัล จานูบ สเตเดียม ประเทศกาตาร์
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 42 ออสเตรเลีย ที่ถึงแม้จะบุกน้อยกว่า แต่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ นาธาเนียล แอตคินสัน หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนยกบอลมาที่เสาสองให้ เคร็ก กูดวิน วอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับ เสียบตาข่ายสุดสวย
ครึ่งเวลาหลัง เกาหลีใต้ ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เกน คลินส์มันน์ พยายามเปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่องหวังทวงประตูคืน แต่ออสเตรเลีย ยังจัดระเบียบแนวรับกันได้ดี ไม่มีช่องให้ทีมโสมขาวเจาะได้ง่ายๆ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกาหลีใต้ ที่โหมบุกอย่างหนัก ก็มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ซน เฮือง-มิน ลากเลื้อยมาในกรอบ ก่อนจะโดน ลูอิส มิลเลอร์ รวบล้มลงไป ผู้ตัดสินไม่รีรอที่จะชี้ให้เป็นจุดโทษ โดยเป็น ฮวาง ฮี-ชาน สังหารเข้าไป "โสมขาว" ตีเสมอ 1-1
เวลาที่เหลือไม่มีใครทำสกอร์กันเพิ่ม หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เสมอกันไป 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษ เกาหลีใต้ เล่นได้ดีกว่า และก็มาได้ประตูแซงนำ 2-1 จากลูกฟรีคิกสุดสวยของ ซน เฮือง-มิน ในนาทีที่ 104
สถานการณ์ของ ออสเตรเลีย แย่ลงเรื่อยๆ เมื่อ ไอเดน โอนีลล์ เข้าสกัดเปิดปุ่มใส่ ฮวาง ฮี-ชาน ทีแรกผู้ตัดสินแจกแค่ใบเหลือง แต่เมื่อดู VAR แล้ว เปลี่ยนมาให้ใบแดงไล่ออกจากสนามทันที ทำให้ทีม "จิงโจ้" ต้องเหลือ 10 คน ในนาทีที่ 105+1
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำประตูกันเพิ่ม หมดเวลาการแข่งขัน 120 นาที เกาหลีใต้ เฉือนชนะ ออสเตรเลีย ไปแบบหวุดหวิด 2-1 ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปพบกับ จอร์แดน วันที่ 6 ก.พ.นี้