ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียน "เอเชียน คัพ 2023" วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา เกมคู่หัวค่ำเป็นการแข่งขันในกลุ่ม E "โสมขาว" เกาหลีใต้ ลงสนามพบ "เสือเหลือง" มาเลเซีย
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 21 เกาหลีใต้ ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะลูกเตะมุม และเป็น จอง วู-ยอง โหม่งเข้าไป โดยลูกนี้นายทวารมาเลเซียเหมือนจะบินเซฟบอลเอาไว้ได้ แต่เมื่อดู VAR บอลข้ามเส้นเข้าไปแล้ว
ครึ่งหลัง มาเลเซีย มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 51 จากความผิดพลาดของแนวรับเกาหลีใต้ และเป็น ไฟซอล ฮาลิม หลอกยิงเล่นทางฝ่าแนวรับของเกาหลีใต้เข้าไป
เท่านั้นยังไม่พอ มาเลเซีย มาได้จุดโทษในนาทีที่ 61 เมื่อ อาฟิฟ ไอมาน โดนแนวรับเกาหลีใต้เตะเท้าในช่วงที่กำลังจะยิง ทีแรกผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร แต่ห้อง VAR ส่งสัญญาณว่ามีการฟาวล์ สุดท้ายกลายเป็นจุดโทษ และก็เป็น อาฟิฟ ไอมาน ลุกมาสังหารไม่พลาด
เกาหลีใต้ พยายามเปิดเกมบุกเพื่อทำประตูตีเสมอ และก็มาประสบผลสำเร็จในนาทีที่ 83 จากลูกฟรีคิกสุดสวยระยะ 35 หลา ของ อี คัง-อิน มิดฟิลด์จากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไล่เจ๊า 2-2
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+4 เกาหลีใต้ มาได้จุดโทษ เมื่อแนวรับของมาเลเซียไปทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นเกาหลีใต้ ซึ่งทีแรกผู้ตัดสินไม่ได้เป่า แต่เมื่อไปดู VAR แล้วถึงกลับมาเป่าให้ สุดท้าย ซน เฮือง-มิน ยิงเข้าไป ขึ้นนำ 3-2
เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ เกาหลีใต้ แต่แล้วทดเจ็บ น.90+14 โรเมล โมราเลส ได้ยิงบอลหน้ากรอบเขตโทษ หนีมือนายทวารเกาหลีใต้เข้าไป มาเลเซีย ตีเสมอ 3-3
เวลาที่เหลือไม่มีใครทำประตูกันเพิ่ม หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เกาหลีใต้ เสมอ มาเลเซีย 3-3 ส่วนผลอีกหนึ่งคู่ บาห์เรน เอาชนะ จอร์แดน 1-0
ผลการแข่งขันสองคู่ในกลุ่ม E ทำให้ แชมป์กลุ่ม ตกเป็นของ บาห์เรน มี 6 แต้ม โดยจะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับ ญี่ปุ่น รองแชมป์กลุ่ม D ขณะที่รองแชมป์กลุ่มนี้ เป็นของ เกาหลีใต้ มี 5 แต้ม เข้ารอบน็อคเอาต์ไปรอพบทีมแชมป์ของกลุ่ม F ส่วน จอร์แดน มี 4 คะแนน เข้ารอบต่อไปในฐานะ 1 ใน 4 ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด