คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
เส้นทางของ รัสเซลล์ วิลสัน ที่ไมล์ ไฮ ดูเหมือนถึงจุดจบ หลัง เดนเวอร์ บรองโกส์ ดร็อปควอเตอร์แบ็กดีกรี โพร โบว์ล 9 สมัย และ ซูเปอร์โบว์ล 1 สมัย 2 เกมสุดท้ายของฤดูกาลปกติ ส่งสัญญาณว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจ่อแยกทางกันตอนจบซีซัน
ก่อนเริ่มสัปดาห์ที่ 17 บรองโกส์ ยังคงมีลุ้นเพลย์ออฟ แต่ความเป็นจริงช่างริบหรี่เหลือเกิน และหาก วิลสัน เกิดอาการบาดเจ็บย่อมส่งผลกระทบต่อแฟรนไชส์ ตามเงื่อนไขการันตีค่าจ้าง 39 ล้านเหรียญสหรัฐ ฤดูกาลหน้า และ 37 ล้านเหรียญสหรัฐ ฤดูกาล 2025 กรณีเขาอยู่บนรายชื่อทีม วันที่ 17 มีนาคม และถ้า วิลสัน ไม่ผ่านตรวจร่างกายฤดูใบไม้ผลิ บรองโกส์ ยังคงแบกรับภาระจ่ายเงินการันตี 37 ล้านเหรียญ ฤดูกาล 2025
แม้ว่าการตัดสินใจจับ วิลสัน นั่งสำรอง อาจเซฟเงินก้อนโตของ บรองโกส์ แต่ผู้สันทัดกรณียังไม่อาจสรุปได้ว่า เป็นการตัดสินใจตามผลงานบนสนามหรือประเด็นการเงินแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ หากพิจารณาสถิติ เดนเวอร์ ชนะ 1 แพ้ 3 ตลอด 4 เกมล่าสุด และการทุ่มเซ็นสัญญา สติดแฮม ช่วงปิดซีซัน
ขอยกความเห็นของ ปีเตอร์ ชราเกอร์ ผู้สื่อข่าว ฟ็อกซ์ สปอร์ตส ซึ่งย่อมรู้ลึกซึ้งกว่าผมว่า"รัสส์ (วิลสัน) ยอดเยี่ยม, มีโมเมนต์สำคัญๆ และเพลย์ชี้ขาดควอเตอร์ 4 แต่ทีมบุกน่าผิดหวัง เดนเวอร์ ไม่ได้คว้า สติดแฮม แบบถูกๆ สติดแฮม เป็นตัวสำรองค่าตัว 7 ล้านเหรียญ เดนเวอร์ ลงทุนอย่างจริงจังตอน ชอน เพย์ตัน (เฮดโค้ช) ดึงเขามาร่วมทีม มีหลายๆ ทีมติดต่อ สติดแฮม หลัง เดนเวอร์ เซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว มีกระแสคาดเดาว่า เพย์ตัน หาผู้สืบทอดของ รัสส์ และ สติดแฮม เป็นผู้เล่นที่ เพย์ตัน อยากดูฟอร์ม"
วิลสัน อดีตผู้เล่น ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส มีแววคืนฟอร์มเก่ง หลังย่ำแย่มาตลอด 1 ปีครึ่ง ที่เดนเวอร์ ขว้างบอลคอมพลีต 71.6 เปอร์เซ็นต์ ระยะ 894 หลา 8 ทัชดาวน์ ไม่เสียอินเทอร์เซ็ปต์ และเรตติงการขว้าง 109.5 ถือบอลวิ่งเอง 116 หลา 1 ทัชดาวน์ ส่งผลให้ บรองโกส์ ชนะ 5 เกมรวด ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 7-12
นับจากนั้น วิลสัน ฟอร์มตก ขว้างคอมพลีต 61.7 เปอร์เซ็นต์ ระยะ 871 หลา 6 ทัชดาวน์ เสีย 4 อินเทอร์เซ็ปต์ และวิ่งเอง 2 ทัชดาวน์ ตลอด 4 เกมล่าสุด ปลุกความหวัง เดนเวอร์ ชิงพื้นที่ไวล์ด-การ์ด สายเอเอฟซี (AFC) เดือนพฤศจิกายน กระทั่งสูญสลายด้วยความปราชัยคาบ้านแก่ นิว อิงแลนด์ แพทริออตส์ ซึ่งชนะแค่ 3 เกม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (31 ธ.ค.)
มองข้ามสาเหตุ บรองโกส์ ปลดจากตำแหน่งตัวจริง วิลสัน อาจต้องหาทีมใหม่เพื่อลงเล่นซีซันที่ 13 ของอาชีพ และต้องแข่งขันเพื่อเป็นตัวจริงฤดูกาล 2024 อย่าง เบเกอร์ เมย์ฟิลด์ นัมเบอร์วันดราฟต์ 2018 ถูก คลีฟแลนด์ บราวน์ส ปล่อยทิ้งหลังการเทรด เดอชอน วัตสัน พเนจรไป แครอไลนา แพนเธอร์ส, แอลเอ แรมส์ ก่อนเซ็นสัญญา แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส แล้ววัดฝีมือกับ ไคล์ ทราสก์
หาก วิลสัน ต้องการย้ายไปทีมสักทีมหนึ่งเพื่อชิงตัวจริง เชื่อว่ามีปลายทางเพียงไม่กี่แห่งที่เป็นไปได้ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ สถิติชนะ 7 แพ้ 9 สูงเกินกว่าจะได้สิทธิ์ดราฟต์ท็อป 5 หรือ 10 เพื่อคัดเลือกควอเตอร์แบ็ก, วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส กรณีไม่คัดเลือกด้วยการดราฟต์ และ มินเนโซตา ไวกิงส์ จะเดินต่ออย่างไร กรณีแยกทาง เคิร์ก เคาซินส์ ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่า เคาซินส์ จะอยู่กับทีมต่อไป
ฟอลคอนส์ กับ คอมมานเดอร์ส ส่งควอเตอร์แบ็กประสบการณ์ 2 ปี ซึ่งถูกดราฟต์รอบกลางๆ ปี 2022 ปรากฏว่า แอตแลนตา จับ เดสมอนด์ ริดเดอร์ นั่งสำรองครั้งที่ 2 ของซีซัน และ วอชิงตัน ส่ง จาโคบี บริสเซตต์ เป็นตัวจริงสัปดาห์ที่ 17 หลัง แซม โฮเวลล์ ถูกเปลี่ยนออก 2 เกมก่อนหน้า แต่ วอชิงตัน ยังมีโอกาสดีสำหรับดราฟต์ควอเตอร์แบ็กตัวท็อป โดยสถานการณ์ล่าสุด จะได้สิทธิ์ดราฟต์อันดับ 3
ด้าน ไวกิงส์ ยังต้องตัดสินอนาคตของ เคิร์ก เคาซินส์ ซึ่งจะเป็นฟรีเอเจนต์หลังจบฤดูกาล 2023 โดยไม่มีสิทธิ์ปักป้ายแฟรนไชส์ แต่อาจจะยื่นข้อเสนอก้อนโตเพื่อรั้งตัวไว้ ถึงแม้เอ็นร้อยหวายฉีก เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ มินเนโซตา ต้องหมุนเวียนควอเตอร์แบ็กนับตั้งแต่นั้น กระทั่งตำแหน่งตัวจริงเป็นของ จาเรน ฮอลล์ รุกกี้ (ผู้เล่นหน้าใหม่) ดราฟต์รอบ 5
พิจารณาอนาคต วิลสัน คุณสมบัติไม่ตรงสเปค แอตแลนตา กับ วอชิงตัน ซึ่งต้องการสร้างทีมระยะยาว และไม่ได้วางเป้าหมายถึงการลุ้นแชมป์ภายใน 3-5 ปี รวมถึงสังขาร และ รูปร่าง ในวัย 35 ปี วิลสัน ไม่คล่่องตัวเหมือนช่วงพีกกับ ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส ร่างกายย่อมไม่ทานทนรับแรงปะทะหนักๆ ครั้นจะปักหลักด้านหลัง ออฟเฟนซีฟ ไลน์แมน ด้วยส่วนสูง 5 ฟุต 11 นิ้ว จัดว่าไซส์เล็กเกินไป ทัศนวิสัยสำหรับมองหาปีกไม่ดีเท่ากับควอเตอร์แบ็กสูงกว่า 6 ฟุต
ยิ่ง วิลสัน พกสัญญาราคาแพงติดตัวย้ายออกจาก เดนเวอร์ บวกกับผลงานต่ำกว่าความคาดหวังของสาวก "ม้าป่า" การกลับมาเกิดใหม่ฤดูกาล 2024 ย่อมเป็นไปได้ยาก