“กุลธน” พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกโรงชื่นชมโครงการ 1 สมาคมกีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ นโยบายด้านกีฬาของรัฐบาลที่จะช่วยพัฒนาวงการกีฬาไทยได้ พร้อมทั้งยกการแข่งขันรักบี้ระดับนานาชาติที่ไทยเป็นเจ้าภาพสามารถดึงดูต่างชาติให้เข้ามาไทยได้มากช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รอลุ้นหากได้เป็นเจ้าภาพระดับเวิลด์ซีรีส์เชื่อว่าจะนำพาเศรษฐกิจไทยดีขึ้นแน่นอน และยังปลื้มใจที่แนวคิด “มวยไทย” ตรงกับนโยบายของ “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติที่ตอนนี้ต่างชาติให้ความสนใจ
พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้คร่ำหวอดในวงการกีฬามาตลอดทั้งชีวิต ทั้งด้านการพัฒนากีฬาไปสู่ระดับนานาชาติ การจัดการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชีย ฯลฯ ดูได้จากการที่เข้ามาเป็นนายกรักบี้ในเวลาเพียง 6 ปี สามารถพัฒนาให้ทีมชาติไทยก้าวไปสู่ระดับโลก และยังดึงแมตซ์รักบี้ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียอย่าง “เอเชียซีรีส์” เข้ามาจัดที่ไทยถึง 2 ครั้ง และยังได้รับคำชื่นชมจากคนวงการกีฬาว่าเป็นนายกสมาคมที่เข้าถึงปัญหานักกีฬา เข้าใจนักกีฬา และยังเป็นคนที่เด็ดขาดพูดจริงทำจริง
ได้ออกมากล่าวชื่นชมนโยบายด้านกีฬาของรัฐบาลในเรื่อง 1 สมาคมกีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ว่าเป็นโครงการที่ดีมาก เพราะจะช่วยให้สมาคมกีฬาได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐวิสาหกิจ ซึ่งทุกวันนี้หลายสมาคมกีฬาก็มีผลงานในระดับนานาชาติที่ดีมาก แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายหากไม่ได้รับการสนับสนุน เพราะบางสมาคมมีนักกีฬาที่เก่ง ทำผลงานได้ในระดับโลกแต่กลับไม่มีงบในการสนับสนุน จนบางครั้งต้องสำรองออกไปก่อน ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกสมาคมต้องประสบพบเจอ แต่ถ้าได้รัฐวิสาหกิจเข้ามาดูแลก็จะสามารถช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้ เพราะโดยส่วนตัวเชื่อมาตลอดว่า กีฬาสามารถ เป็นแรงผลักดัน เป็นแรงขับเคลื่อน การพัฒนาประเทศ ในทุกๆมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สังคม การเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านเศรษฐกิจ เชื่อว่าถ้านโยบายนี้สำเร็จ นายกฯกีฬา และคนวงการกีฬามีเฮแน่นอน
ขณะเดียวกันกีฬารักบี้ก็ขอขอบคุณ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานอนุกรรมการฝ่าย พัฒนากีฬาแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ครํ่าหวอดในวงการกีฬาเช่นเดียวกัน รวมถึง นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา กรรมการที่เห็นถึงประโยชน์ ของนโยบายนี้ และรับนำมาดำเนินการ สมาคมรักบี้ฯ เอง ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ก็คาดหวังว่าจะมีรัฐวิสหกิจเข้ามาสนับสนุนเช่นกัน โดยตอนนี้วงการรักบี้ไทยกำลังเป็นที่จับตาของวงการรักบี้โลก และปัจจุบันก็มีคนไทยเข้าไปทำงานเป็นคณะกรรมการบริหารสหพันธ์รักบี้แห่งเอเชีย จนตอนนี้ประเทศไทยคือประเทศเบอร์ต้นๆที่เอเชียรักบี้มีความพึงพอใจในการเป็นเจ้าภาพรักบี้เอเชียซีรีส์ที่จัดได้ดีและยิ่งใหญ่มีระบบถ่ายทอดสดภาพคมชัด รวมทั้งการจัดการที่ดีเป็นระเบียบเรียบร้อย จนเอเชียรักบี้ได้ส่งจดหมายมาให้ไทยเป็นเจ้าต่อถึง 3 ครั้งติดต่อกัน (2024-2026) โดยที่ผ่านมาการที่เราเป็นเจ้าภาพรักบี้เอเชีย ได้สร้างการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีทั้งที่พักโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว จากความสำเร็จนี้ทางสมาคมรักบี้ไทยกำลังคิดการใหญ่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพระดับเวิลด์ซีรีส์ หากว่าไทยได้เป็นเจ้าภาพก็จะสามารถเม็ดเงินมหาศาลเข้าสู่ประเทศได้อย่างแน่นอน ซึ่งเปรียบเสมือนการดึงซอฟพาวเวอร์ระดับโลกให้มาที่ไทย
นอกจากนี้ “บิ๊กต้น” ก็ยอมรับว่า “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มาถูกทางแล้ว ที่ให้ความสำคัญกับวงการกีฬาที่เห็นว่ากีฬาสามารถนำการเมืองได้และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ “มวยไทย” ที่ตนเห็นด้วยกับนโยบายนี้ ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติที่คนต่างชาติชื่นชอบและให้ความสนใจ ดูได้จาก 2 เวทีใหญ่อย่าง ลุมพินี กับ ราชดำเนิน ที่มีต่างชาติเข้ามาชมแน่นสนามและยังมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก มันคือซอฟพาวเวอร์ด้านกีฬาอันดับ 1 ที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการอีกเช่นกัน ไม่อย่างนั้นประเทศเพื่อนบ้าน อาจจะชิงความได้เปรียบเอาไปเป็นมวยประจำชาติของตัวเองเสียก่อน ส่วนแนวทางการดำเนินการในเรื่องนี้ ต้องขอดูแนวคิดของทางรัฐบาลก่อนว่าจะมีวิธีการใด ให้มวยไทยเป็น solf power แบบ พรีเมียร์ลีก ของอังกฤษได้ มันต้องทำให้ได้ระดับนั้น การส่งเสริม เปิดค่ายมวย ไปทั่วโลก ยังไม่ใช่คำตอบ