คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ยกเว้นการเล่นบนสนามหญ้าจริงแบบกลางแจ้ง ท่ามกลางสายลมแสงแดดย่าน เซาธ์ ฟลอริดา ไมอามี ดอลฟินส์ แฟรนไชส์ อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่บางท่านรู้จักจากการชมภาพยนตร์ เอซ เวนทูรา นักสืบสารพัดสัตว์ ภาค 1 ซึ่งมี แดน มาริโน เป็นดาราสมทบ ทำให้หวนนึกถึงยุค Y2K กับภาพจำของ เซ็นต์ หลุยส์ แรมส์ บดขยี้คู่ต่อสู้แบบพนักงานสกอร์บอร์ดแทบไม่มีเวลาหยุดหายใจ
การเปรียบเทียบเช่นนี้ เกิดขึ้นช่วงครึ่งหลังของการแข่งขันสัปดาห์ที่ 5 โดยเอาชนะ นิว ยอร์ก ไจแอนท์ส ขาดลอย 31-16 ที่ฮาร์ด ร็อค สเตเดียม คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8 ต.ค.) ตามเวลาบ้านเรา แรมส์ ฤดูกาล 1999 เป็นเจ้าของสถิติระยะสูงสุด 5 เกมแรกของซีซัน 2,527 หลา กระทั่งถูก ดอลฟินส์ ท่าบและทำลายสถิตินั้นเรียบร้อยแล้ว ด้วยระยะรวม 2,568 หลา หลังจบเกมล่าสุด
แรมส์ ชุดนั้นนำโดย เคิร์ต วอร์เนอร์ ควอเตอร์แบ็กว่าที่ ฮอลล์ ออฟ เฟม (หอเกียรติยศ) ที่ไม่เคยมีใครรู้จัก ลงเล่นแทน เทรนท์ กรีน ควอเตอร์แบ็กตัวจริง แล้วขว้างระเบิดระเบ้อ 4,353 หลา 41 ทัชดาวน์ แม้ว่าซีซันต่อมา (2000) ผลงานของเขาหล่นเหลือ ขว้าง 3,429 หลา 21 ทัชดาวน์
ทางเลือกของ แรมส์ สำหรับการเจาะภาคพื้นดิน คือ มาร์แชลล์ ฟอล์ก รันนิงแบ็กระดับตำนาน ซึ่งทำสถิติของ NFL 26 ทัขดาวน์ โดยวิ่งได้ระยะ 2,189 หลา และเป้าหมายการขว้างของ วอร์เนอร์ เป็นคู่หูปีกนอกที่มีความเร็วเป็นอาวุธอย่าง ไอแซ็ค บรูซ ระยะ 1,471 หลา 9 ทัชดาวน์ และ ทอร์รี โฮลท์ ระยะ 1,635 หลา 6 ทัชดาวน์ คล้ายกับขุมกำลังของ ดอลฟินส์
หัวใจสำคัญของ "โลมามหาภัย" ชุดนี้ คือ ตูอา ทาโกไวลัว ควอเตอร์แบ็กสิงห์อีซ้าย ซึ่งคลายความกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บช่วงปิดซีซัน ขับเคลื่อนทีมบุกทำสกอร์สูงสุดของลีก 181 แต้ม โดยหลังจากเล่นงาน ไจแอนท์ส ขว้าง 308 หลา 2 ทัชดาวน์ ทาโกไวลัว ทำสถิติขว้างอย่างน้อย 300 หลา ทำสกอร์มากกว่า 1 ทัชดาวน์ 3 เกม
ประเมินตามหลักคณิตศาสตร์ ทาโกไวลัว มีสิทธิ์ขว้าง 5,487 หลา ซึ่งอาจทุบสถิติของ แดน มาริโน ตำนานแฟรนไชส์ ที่ทำไว้ 5,048 หลา ฤดูกาล 1984 การคำนวณเวลา และความแม่นยำของเขาน่าทึ่งเหลือเกิน โดยเฉพาะการประสานงานช่วงต้นเกม ปาบอลให้ ไทรีก ฮิลล์ ปีกความเร็วจัด แบบตกใส่มือและอ้อมอกพอดิบพอดี แล้วสปีดหนีตัวประกบถึง เอนด์ โซน
หลังจากทะลุทะลวง ไจแอนท์ส ด้วยการรับบอล 8 ครั้ง ระยะ 181 หลา 1 ทัชดาวน์ ปัจจุบันเขารับบอล 36 ครั้ง ระยะ 651 หลา 5 ทัชดาวน์ และอาจสร้างปรากฏการณ์ รับบอล 2,213 หลา ทุบสถิติเดิมของ "เมกะตรอน" แคลวิน จอห์นสัน อดีตปีก ดีทรอยต์ ไลออนส์ ทำไว้ 1,964 หลา เมื่อปี 2012
ดี'วอน เอเชน รันนิงแบ็กรุกกี้ ถือบอล 11 ครั้ง วิ่งได้ระยะ 151 หลา 1 ทัชดาวน์ ช่างบังเอิญเหลือเกินว่า สวมเสื้อหมายเลข 28 เหมือน ฟอล์ก แต่น่าเสียดายว่า เกิดอาการบาดเจ็บหัวเข่าจนถูกเปลี่ยนออก เกมถล่ม ไจแอนท์ส ซึ่งกว่าจะคืนสนามอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ ทำให้ขาดตอนทั้งๆ ที่กำลังฟอร์มแรงทั้งสนามจริง และแฟนตาซี
เคราะห์ดีที่ ดอลฟินส์ ยังเหลือตัววิ่งที่พอทดแทนกันได้อย่าง ราฮีม มอสเทิร์ต ซึ่งเปรียบดั่ง โรบิน ของ แบทแมน ที่มีชื่อว่า เอเชน ด้วยวัย 31 ปีของเขา อาจต้องรับภาระมากขึ้นหลังรุ่นน้องบาดเจ็บ และถือบอล 10 ครั้ง วิ่งได้ระยะ 65 หลา 1 สกอร์ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่อาจจะได้ เจฟฟ์ วิลสัน จูเนียร์ กลับมาช่วยทีมสัปดาห์นี้ หลังบาดเจ็บช่วงซ้อม
ถึงตอนนี้ลองนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้น หาก เจย์เลน วอดเดิล ปีกนอก เครื่องติดอีกคนหนึ่ง หลังเริ่มต้นอาชีพรับบอลอย่างน้อย 1,000 หลา 2 ปีติดต่อกัน รวม 1,356 หลา 8 ทัชดาวน์ เมื่อปี 2022 ปัจจุบันเขารับบอล 17 ครั้ง ระยะ 245 หลา ตลอด 4 เกม โดยพลาดลงสนามสัปดาห์ที่ 3 ไม่ต้องร้องขอกันมากมาย ขอแค่ใกล้เคียงมาตรฐาน 2 ซีซันแรกก็เพียงพอ
ดอลฟินส์ ลงสนามเกมเยือน บัฟฟาโล บิลล์ส และ นิว อิงแลนด์ แพทริออตส์ 2 คู่ปรับร่วมดิวิชัน เอเอฟซี (AFC) ตะวันออก เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นกว่าจะเยือนทั้ง 2 ทีมท่ามกลางบรรยากาศสนามพื้นน้ำแข็งเดือนธันวาคม ต้องรอไปถึงฤดูกาล 2024 และหลังพ้นบายวีก (พัก 1 สัปดาห์) สัปดาห์ที่ 10 ไมอามี จะเยือน วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส, นิว ยอร์ก เจ็ตส์ และ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ช่วงฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม โดบโปรแกรมที่เหลือจะเปฺ็นเกมเหย้า
การทุบสถิติ 5 สัปดาห์แรกของ แรมส์ ยุค The Greatest Show on Turf ส่งผลให้ ดอลฟินส์ เป็นทีมที่น่าจับตามอง แต่ลางสังหรณ์บอกว่า ทีมที่มาแรงๆ ช่วงฤดูกาลปกติมักเสียท่าเพลย์ออฟ แม้ว่าอาจจะยังไม่ถึงขั้นท้าชิง แคนซัส ซิตี ชีฟส์ แชมป์เก่า แต่ขอแค่เกมบุกแบบมันๆ ก็คงเพียงพอปลุกแฟนๆ ดอลฟินส์ ให้กระชุ่มกระชวย เหมือน ราสมุส ฮอยจ์ลุนด์ กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด