คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ผ่านมาได้สองเดือนเศษแล้วสำหรับรายการ One Lumpinee ที่ศึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมรายการใหญ่ของเอเชีย One FC เรียกเสียงฮือฮาไปทั่ววงการมวยมาจัดศึกมวยไทยรายสัปดาห์ทุกค่ำวันศุกร์ (มี MMA แซมอยู่นิดหน่อย) ด้วยโปรดักชั่นอลังการ แสงสีเสียงจัดเต็ม ค่าตัวนักมวยระดับไฮเอนด์ แถมด้วยโบนัสที่พลิกชีวิตนักมวยได้เลย กับรายการที่ต้องถือว่าเปิดตัวก่อนด้วยกลิ่นอายมวยไทยแท้ๆ อย่าง “RWS” ราชดำเนิน เวิร์ลด์ ซีรี่ส์ ที่ยอมขยับเวลาไปเป็นค่ำวันเสาร์แทน แต่ดึงโปรโมเตอร์ชื่อดังทั่วฟ้าเมืองไทยมาจัดคู่มวยให้แฟนๆ ซี้ดปาก ตอนนี้หวนคืนผังรายการได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว แฟนๆ จะติดใจรายการไหนมากกว่ากัน
รายการ “วัน ลุมพินี” นั้นจุดเด่นที่สำคัญเลยคือให้นักมวยใช้นวมเล็ก ขนาด 4 ออนซ์ ทำให้ป้องกันยาก และถ้าโดนคือหมัดเน้นๆ ทำให้รายการมีการน็อกกันอุตลุด บางสัปดาห์น็อกกันแทบทุกคู่ ยิ่ง “บอสชาตรี” จัดโบนัสให้แบบจัดเต็มไม่เม้ม ทำให้นักมวยเดินใส่กันลืมตาย บางคู่ผู้แพ้ยังได้โบนัสถ้าซดกันได้มันส์จริงๆ ส่วนอาวุธอย่างอื่นก็จัดเต็ม มีศอกจนน็อก ศอกจนแตกเลือดท่วมเวที ลูกเข่าเรียกเสียง “ตี ตี ตี” กระหึ่มเวที เรียกว่าถูกใจคอซาดิสม์ที่ดูมวยเดินซดกันจริงๆ แต่แฟนมวยบางรายก็ยังบอกว่าสิ่งที่ขาดหายไปคือศิลปะมวยไทยแท้ๆ ที่มวยเชิง มวยลีลา ก็มี แต่หายไปเลยจากรายการนี้ ดูไปหลายคู่ก็เหมือนมวยมั่ว อาศัยหนักอย่างเดียว รวมทั้งการที่เน้นเรื่องความปลอดภัยของนักมวยก่อน อันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งก็เลยยุติการชกแบบที่มีเสียงครหาได้บ้างว่าจับเร็วไปมั้ย น่าจะให้โอกาสนักมวยก่อนมั้ย
ส่วน “RWS” ยังใช้นวมใหญ่ แต่ก็ยังมีน็อกกันประจำเหมือนกัน เรียกว่ามันส์ไม่แพ้กัน ยังรักษากลิ่นอายมวยไทย จัดให้มีการไหว้ครูทุกคู่ (ของ “วัน ลุมพินี” มีไหว้ครูเฉพาะคู่หลัก ส่วนคู่อื่นๆ ทางรายการจัดให้ขึ้นมาไหว้ครูแบบ “หมู่” ก่อนเริ่มรายการ แต่ยังถือว่าให้นักมวยได้ระลึกถึงครูก่อนชกเหมือนกัน) เสริมจุดเด่นด้วยการเปิดคะแนนให้เห็นกันจะๆ ทุกยก แฟนๆ ที่ติดตามก็รู้สถานการณ์ แล้วดูได้เลยว่ามวยจะมาแบบไหน คนคะแนนเป็นรองก็เดินสาวอุตลุด ถือว่ามันส์ไม่แพ้รายการ “วัน ลุมพินี” แต่ก็บอกตรงๆ ว่าหลายคู่ยังติดลีลาแบบมวยไทยพิมพ์นิยม เน้นการรักษารูปมวย ยกแรกนี่แทบไม่ทำอะไรกัน แลกแข้งกันประปราย ออกอาวุธแบบประหยัด พอถึงยกสามนี่บางคู่ก็ออกมาเต้นชูมือกันทั้งสองฝ่ายแล้ว ทั้งๆ ที่มวยสามยกแท้ๆ ทางโปรโมเตอร์ใหญ่ “เสี่ยโบ๊ท” เองก็พยายามยกระดับความมันส์ ด้วยการแจกโบนัสบ้าง แต่อัตราโบนัสยังอยู่ในระดับเซียนมวย “ติ๊ป” นักมวย หรือจัดให้มีการแจก “การ์ดทอง” ซึ่งผลตอบแทนของ “การ์ดทอง” ก็ยังไม่สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้เท่าไหร่ เรียกว่าถ้าด้านความมันส์สะใจ ก็ต้องยอมรับว่ายังสู้รายการที่ลุมพินีไม่ได้ ส่วนเรื่องแสงสีเสียงนั้นถือว่าจัดเต็มเหมือนกัน แต่แล้วแต่ใจใครจะชอบแค่ไหนละกันสำหรับรายการนี้
ก็ต้องบอกว่าของแบบนี้ก็แล้วแต่ใจแฟนมวยจะชอบแบบไหน แต่ที่สำคัญสำหรับแฟนมวยก็คือมีรายการมวยมันส์ๆ ดีๆ ให้ดู ยกระดับชีวิตของนักมวยขึ้นมา ส่วนรายการอื่นที่ยังเป็นมวย 5 ยก ก็ยังมีให้ติดตามหลากหลาย ถือว่าครึกครื้นดีสำหรับแฟนมวย ใครชอบแบบไหนดูแบบนั้น เชียร์แบบนั้น หรือดูทุกรายการให้ตาแฉะไปเลย ตอนหลับอย่าละเมอตีศอกขึ้นเข่าคนข้างๆ แค่นั้นพอ