ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกเเห่งประเทศไทย เดินทางเยี่ยมชมการฝึกซ้อมและให้กำลังใจนักกีฬาพาราไทย ที่ศูนย์ฝึกกีฬาคนพิการ จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมลงสู้ศึกสำคัญ 2 รายการใหญ่ ในปีนี้ คือ "อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12" ระหว่างวันที่ 1-10 มิถุนายน 2566 ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา และการแข่งขัน "เอเชี่ยนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4" ระหว่างวันที่ 22-28 ตุลาคม 2566 ณ นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้นักกีฬาพาราไทยต้องฝึกซ้อมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเก็บคะแนนทำแรงค์กิ้งเพื่อต่อยอดสู่เป้าหมายใหญ่พาราลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศสในปีหน้าอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมานักกีฬาพาราไทยสร้างผลงานคว้าอันดับสอง ในการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งล่าสุด ที่อินโดนีเซีย 116 เหรียญทอง 113 เหรียญเงิน 90 เหรียญทองแดง และ จบอันดับ 7 ในการแข่งขัน “เอเซียนพาราเกมส์ 2018” ที่ประเทศอินโดนีเซีย ผลงาน 23 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดง เชื่อมั่นว่าปีนี้นักกีฬาพาราไทยจะสามารถสร้างผลงานได้ดีในหลายชนิดกีฬา อาทิ วีลแชร์เรซซิ่ง, ว่ายน้ำ, บอคเซีย, ยิงปืน และยิงธนู ฯลฯ ทั้งจากผลงานของนักกีฬาดาวรุ่งที่ก้าวขึ้นมาเสริมทีม และนักกีฬารุ่นพี่ที่ทำผลงานไว้เป็นอย่างดี ทั้งนี้พาราลิมปิกไทยได้ทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาคนพิการทั้ง 5 สมาคมในการเตรียมทีมต่อเนื่องจนถึงการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ที่ฝรั่งเศสในปีหน้า
ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกเเห่งประเทศไทย กล่าวหลังเยี่ยมชมการฝึกซ้อม ของนักกีฬาพาราไทย ว่า การเตรียมทีมในครั้งนี้ มีความท้าทายต่างจากหลายครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แทบไม่มีการแข่งขันรายการสำคัญในต่างประเทศ ทำให้นักกีฬาของเราขาดประสบการณ์ในการแข่งขันรายการใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักกีฬาดาวรุ่ง ประกอบกับจากการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ที่โตเกียวครั้งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่านักกีฬาจาก ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศตะวันออกกลางมีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ทำให้การเตรียมทีมของเราต้องมีการเตรียมตัวที่ดี และเป็นการทำงานร่วมกันของทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง
"การแข่งขันรายการใหญ่ในปีนี้ ประกอบด้วย อาเซียนพาราเกมส์ ต่อด้วยศึกเอเชี่ยนพาราเกมส์ 2023 ซึ่งทั้งสองรายการเป็นการวัดฝืมือของนักกีฬาคนพิการไทยในระดับอาเซียน และเอเชีย โดยในระดับเอเชีย เราต้องไปเจอนักกีฬาจากประเทศแถวหน้าอย่าง จีน ญี่ปุ่น และชาติตะวันออกกลาง หลายประเทศที่เราเห็นฝืมือพวกเขามาแล้วในพาราลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พวกเขามีพัฒนาการที่ดีมาก ส่วนศึกอาเซียนพาราเกมส์ มีข้อดีคือเราสามารถส่งนักกีฬาได้เป็นจำนวนมาก นอกเหนือจากนักกีฬาที่มีประสบการณ์มานาน รายการนี้เรายังเปิดโอกาสให้นักกีฬาหน้าใหม่ ให้เขาได้ไปหาประสบการณ์ในระดับนานาชาติ นั่นคือการสร้างนักกีฬายุคใหม่ไปในตัว และต่อยอดไปสู้การแข่งขันใหญ่ๆต่อไปในอนาคต"
โดย ร.ท.ณัยณพ ยังพูดถึงความคาดหวังของนักกีฬาพาราไทยในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่า "ผมเชื่อว่ากีฬาว่ายน้ำจะเป็นอีกชนิดกีฬาที่สร้างผลงานได้ดี มีนักกีฬาดาวรุ่ง 2-3 คนที่ก้าวขึ้นมาเป็นความหวังของทีมว่ายน้ำ ซึ่งกำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขันรายการใหญ่ๆ อีกชนิดกีฬาที่ยังคงเป็นความหวังของเราอยู่ คือ บอคเซีย ที่เราได้เหรียญทองพาราลิมปิกมาแล้วถึง 3 สมัยติดต่อกัน ในคลาสบีซี 1-2 รวมถึง ทีมวีลแชร์เรซซิ่งของไทยที่ขึ้นชื่อในความเก่งกาจ และสร้างผลงานในระดับนานาชาติไว้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอด เรามีนักกีฬาตัวเก๋าเยอะ และยังสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ขึ้นมาทดแทนได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันทีมกรีฑาคนพิการของไทยเริ่มพัฒนาขึ้นในระดับเอเชี่ยนพาราเกมส์ นอกจากนี้ยังมี นักกีฬายิงปืน, ยิงธนู ที่เราก็ยังมีลุ้นเหรียญรางวัลอยู่"