ริยาด มาห์เรซ สวมบทฮีโร่ ยิงประตูในช่วงครึ่งเวลาหลัง ช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกเก็บชัยเหนือ "สิงห์บลูส์" เชลซี หวุดหวิด 1-0 คว้าสามแต้มไล่จี้ อาร์เซน่อล เหลือ 5 คะแนน
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา เกมบิ๊กแมตช์ "สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี
เกมในครึ่งเวลาแรกเริ่มไปได้เพียง 3 นาที ราฮีม สเตอร์ลิง ก็ได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออก โดยส่ง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ลงมาเล่นแทน จนนาทีที่ 18 เชลซี ก็ต้องมาเสียผู้เล่นไปอีกหนึ่งคนเมื่อ คริสเตียน พูลิซิช ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ต้องเอา คาร์นีย์ ชุคเวเมกา ลงมาเล่นแทน และจบ 45 นาทีแรกยังไม่มีใครทำประตูกันได้
ครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี เร่งเครื่องอย่างหนัก และก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายออกทางซ้ายให้ แจ็ค กรีลิช ก่อนจะปาดเรียดไปที่เสาสองให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาแปเข้าไปนิ่มๆ
หลังเสียประตูเจ้าถิ่นเชลซีพยายามหาโอกาสตอบโต้เพื่อยิงคืนให้ได้ แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์เน้นๆ ไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที แมนฯ ซิตี บุกเก็บชัยเหนือ "สิงห์บลูส์" ไปด้วยสกอร์ 1-0 คว้าสามแต้มสำคัญเอาไว้ได้
ทั้งนี้ "เรือใบสีฟ้า" เอาชนะ "สิงห์บลูส์" เป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันในทุกรายการ มีเพิ่มเป็น 39 คะแนน จาก 17 นัด รั้งอันดับ 2 ไล่จี้จ่าฝูง อาร์เซน่อล เหลือ 5 แต้ม ขณะที่ เชลซี ลงเล่นไป 17 เกม มี 25 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 10 ของตาราง