ลิโอเนล เมสซี จารึกประวัติศาสตร์กลายเป็นนักฟุตบอลคนแรกของโลกที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมหรือ Golden Ball ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้ถึง 2 สมัย ในปี 2014 และ 2022
ทั้งนี้ในปี 2014 ถึงแม้ "ฟ้าขาว" ทีมชาติอาร์เจนติน่า จะชวดได้แชมป์ จากความพ่ายแพ้ให้กับ เยอรมนี 0-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่จากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ก็ทำให้ "เมสซี" คว้าโกลเดน บอล สมัยแรก มาครอบครอง
ก่อนที่เจ้าตัวจะมาคว้ารางวัลโกลเดน บอล ได้อีกครั้งในปี 2022 จากผลงานการทำไป 7 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ โดยยิงไป 2 ประตูในนัดชิงชนะเลิศ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ไปครอบครอง สิ้นสุดการรอคอย 36 ปี
นอกจากนี้เจ้าตัวยังทำอีกหลายสถิติในฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ดังนี้
- ลงสนามในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มากสุดในประวัติศาสตร์แซงหน้า โลธาร์ มัทเธอุส ที่ 26 นัด
- ลงเล่นด้วยจำนวนนาทีที่มากที่สุดในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ด้วยจำนวน 2,314 นาที ทำลายสถิติเดิมของ เปาโล มัลดินี ที่ทำเอาไว้ 2,217 นาที
- เก็บชัยชนะในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มากที่สุดในประวัติศาสตร์เท่ากับ มิโลสลาฟ โคลเซ่ ที่ 17 นัด
- นักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ที่ยิงประตูครบทุกรอบ ไล่ตั้งแต่ รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบ 8 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ
- นักเตะที่มีส่วนร่วมในการทำประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เทียบเท่ากับ เปเล่ ตำนานแข้งชาวบราซิเลียน โดย เมสซี มีส่วนร่วมไป 22 ประตู (ทั้งยิง และจ่ายให้เพื่อนทำประตู) แบ่งเป็นยิง 13 ประตู และทำอีก 9 แอสซิสต์
