สตีฟ เคอร์ เฮดโค้ช โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ปฏิเสธคอมเมนต์เกี่ยวกับ ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) รอบชิงชนะเลิศ สายตะวันตก พบ ดัลลัส มาเวอริกส์ เกม 4 วันพุธที่ 25 พฤษภาคม เรียกร้องออกกฎหมายควบคุมการพกปืน หลังเกิดเหตุกราดยิง ที่รัฐเท็กซัส
เคอร์ พาดพิงถึงเหตุกราดยิง ที่โรงเรียนประถมร็อบบ์ ตั้งอยู่ในเมืองอูวัลเด ช่วงเช้าวันอังคาร (24 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐอเมริกา "นับตั้งแต่เกิดเหตุ เรายกเลิกกิจกรรม ชู้ต อราวน์ด (ซ้อมยิงเพื่ออบอุ่นร่างกาย) เด็ก 14 คน และครู 1 คน ถูกฆ่าตาย อยู่ห่างจากที่นี่ 400 ไมล์"
สถิติผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นเด็ก 19 คน กับ ผู้ใหญ่ 2 คน ตามรายงานของโฆษก กรมความปลอดภัยสาธารณะประจำรัฐเท็กซัส ขณะที่ ผู้ต้องสงสัยวัย 18 ปี ซึ่งบุกรุกโรงเรียนประถมศึกษา พร้อมปืนพก กับ ไรเฟิล อย่างละ 1 กระบอก เสียชีวิตเช่นกัน
เหตุการณ์ยังไม่ชัดเจนว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บกี่คน แต่ พีท อาร์เรดอนโด ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่น เผยว่า "มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"
อดีตผู้เล่น ชิคาโก บูลล์ส และ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ตะโกนพร้อมทุบโต๊ะแถลงข่าว "เมื่อไรที่เราจะทำอะไรสักอย่าง? ผมเบื่อหน่ายเหลือเกินที่จะมานั่งอยู่ตรงนี้ และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย ผมเบื่อคำแก้ตัว, คำว่าเสียใจ และการไว้อาลัย พอเสียที"
เคอร์ วัย 56 ปี ต่อต้านเหตุการณ์รุนแรงซึ่งเกิดจากปืน และออกกฎหมายควบคุมมานาน เนื่องจากคุณพ่อ มัลคอล์ม ถูกยิงเสียชีวิต ในเหตุก่อการร้าย ที่กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อปี 1984
โค้ชดีกรีแชมป์ NBA 3 สมัย ชี้ประเด็น H.R.8 ร่างพระราชบัญญัติซึ่งเพิ่มความเข้มงวดด้านการตรวจสอบการถ่ายโอนอาวุธปืนระหว่างบุคคล ที่ผ่านรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว เมื่อปี 2021 แต่ไปไม่ถึงวุฒิสภา
"มีเหตุผลข้อหนึ่งที่พวกเขาไม่ลงมติ เพื่อรักษาอำนาจ ผมขอถามคุณ มิตช์ แม็คคอนเนลล์ (ผู้นำวุฒิสมาชิกเสียงข้างน้อย) และวุฒิสมาชิกทุกคนที่ไม่ทำอะไรเลย เพื่อหยุดความรุนแรง และเหตุกราดยิงตามโรงเรียน หรือซูเปอร์มาร์เก็ต"
"ผมขอถามคุณ พวกคุณต้องการอำนาจของตัวเองมากกว่าความปลอดภัยของเด็กๆ และคนชราหรือ เพราะนั่นดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่เราคุ้นเคยทุกสัปดาห์" เคอร์ ทิ้งท้าย
