คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
นับตั้งแต่ "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ตัดสินใจพาตัวเองออกไปแตะขอบฟ้าบนเวทีลูกหนังเจลีก กลายเป็นการเปิดประตูทะลุมิติระหว่าง ญี่ปุ่น กับ อาเซียน โดยมีผู้เล่นชาวอาเซียนเดินทางสู่สังเวียนแข้งแดนปลาดิบมาแล้วหลายคน
การที่เราได้เห็นผู้เล่นอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หรือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ไปโลดแล่นในลีกระดับสูงของทวีปอย่างเจลีกนั้นเป็นเรื่องน่าภูมิใจเหลือเกิน
เหนือกว่านั้นก็เป็นความสนุกสนานยามเราได้เห็นนักเตะทีมชาติไทยจากต่างสโมสรต้องมาดวลฝีเท้ากันเองในลีกต่างแดน จนมีชื่อเรียกขานว่า "ไทยดาร์บี้" ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร จบเกมก็จะได้เห็นนักเตะไทยยกมือไหว้ทักทายกันอย่างพี่น้องที่พลัดพรากได้มาเจอกันอีกครั้ง
แต่สถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไป เมื่อเจลีก 1 ต้องเหลือผู้เล่นไทยเพียงคนเดียว คือ ชนาธิป แต่การตัดสินใจย้ายออกจาก ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทีมที่หยิบยื่นโอกาสแรกให้นักเตะไทย มุ่งสู่สโมสรระดับแชมป์อย่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ส่งผลให้ "นกเค้าแมวเมืองเหนือ" ต้องมองหานักเตะอาเซียนรายใหม่
อย่างที่บอกมาตลอดคือเขาต้องการนักเตะไทย และคนที่ตกเป็นข่าวมาตลอดนั้นเป็น สุภโชค สารชาติ แนวรุกทีมชาติไทย จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตอนแรกก็คิดว่ายากที่ต้นสังกัดจะปล่อยตัว แต่เมื่อ "พี" ศศลักษณ์ ไหประโคน ยังได้รับโอกาสย้ายไปร่วมทีม ชุนบุก ฮุนได แห่งเคลีกได้ การย้ายของ สุภโชค ก็เป็นไปได้ขึ้นมาทันที
แน่นอนว่าเป็นการย้ายด้วยเงื่อนไขแบบเดียวกัน คือ ปล่อยยืมตัว 6 เดือน พร้อมมีออฟชั่นยืมตัวต่ออีก 6 เดือน และสามารถซื้อขาดได้เลย พูดง่ายๆ ถ้าเล่นไม่ออก ครบสัญญาก็ดึงกลับมาอยู่กับครอบครัว "ปราสาทสายฟ้า" เหมือนเดิมได้
กลายเป็นว่า เจลีก เลก 2 จะมีนักเตะไทยไปเพิ่ม แต่ดูแล้วคงมีอีก เพราะก่อนหน้าก็มีข่าวว่า สโมสรในญี่ปุ่นยังต้องการนักเตะไทยอีกหลายราย อาทิ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ แห่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อาจได้ไปเป็นเพื่อนร่วมทีมใหม่กับนายทวารเบอร์ 1 อาเซียน ดัง วาน ลัม ที่สโมสร เซเรโซ่ โอซาก้า
นอกจากนี้อาจมีชื่อของ วีระเทพ ป้อมพันธ์ กับ พิชา อุทรา จากเมืองทอง ยูไนเต็ด ก็มีความเป็นไปได้ที่จะไปค้าแข้ง แม้อาจจะเป็นฤดูกาลหน้า รวมถึงรายของ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็มีข่าวย้ายไปแดนปลาดิบเช่นกัน ไปกันเยอะๆ แบบนี้ ทำให้ เจลีก น่าดูขึ้นอีกเยอะสำหรับคนไทย