คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เมื่อค่ำๆ วันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาบ้านเรา มีศึกมวยดังระดับโลกที่เมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น โดย “สามจี” เกนนาดี้ โกลอฟกิ้น ราชาน็อกเอ๊าท์ชาวคาซัคสถาน เจ้าของสถิติชก 43 ชนะ 41 (น็อก 36) เสมอ 1 แพ้ 1 ขึ้นสังเวียนเปิดศึก “เดิมพันแชมป์” กับนักชกญี่ปุ่นเจ้าถิ่น เรียวโตะ มูระตะ โดยโกลอฟกิ้นนั้นเป็นเจ้าของเข็มขัดโลกรุ่นมิดเดิ้ลเวท 160 ปอนด์ของ IBF (และเส้นเล็กๆ ของ IBO) ส่วนมูระตะนั้นเป็นถึง “ซูเปอร์แชมป์” ในรุ่นเดียวกันของ WBA โดยได้รับการยกย่องเป็น “ซูเปอร์แชมป์” เพราะ “ไอ้หัวขิง” ซาอูล “กาเนโล” อัลวาเรซ เจ้าของตำแหน่งคนเดิมเลื่อนรุ่นขึ้นไปชกรุ่นซูเปอร์มิดเดิ้ลเวท เรียวโตะ มูระตะเลยได้เลื่อนขึ้นมาเป็นซูเปอร์แชมป์แม้จะเพิ่งคว้าเข็มขัดแชมป์ “ปกติ” เมื่อกลางปี 2019 และป้องกันตำแหน่งแค่ครั้งเดียวในปลายปี 2019 แล้วก็ไม่เคยขึ้นชกอีกเลยนับแต่นั้นมาก็ตาม
ทางด้านราชาน็อกเอ๊าท์ชาวคาซักสถานก็เรื้อสังเวียนไม่น้อยเหมือนกัน ปี 2019 ขึ้นชก 2 ไฟต์ แล้วเว้นไปปีเศษมาขึ้นชกอีกครั้งเดือนธันวาคม 2020 ส่วนปี 2021 ไม่ได้ขึ้นชกเลยแล้วมาขึ้นชกก็ไฟต์นี้ เรียกว่าเว้นไปเกือบปีครึ่ง แถมอายุเพิ่งครบ 40 ปีไปเมื่อวันที่ 8 เมษายนนี้เองอีกต่างหาก ส่วนทางมูระตะนั้นอายุ 36 ปีและว่ากันจริงๆ ชื่อชั้นเป็นรองสุดกู่ ชกมาเพียง 18 ไฟต์ชนะ 16 แพ้ 2 โดยไม่เคยเจอมวยดังๆ จริงๆ เลย ไฟต์นี้ “สามจี” ดูสภาพร่างกายฟิตเปรี๊ยะทำน้ำหนักในพิกัด 160 ปอนด์สบายๆ แต่พอเจอกันบนสังเวียนจริงๆ 6 ยกแรกทางมูระตะทำได้ดี อาศัยช่วงชกที่ยาวกว่าออกหมัดแม่นยำล่างสลับบนจนโกลอฟกิ้นหน้าสั่นไปหลายครั้ง แถมทิ่มขวาตรงเข้าลำตัวหลายหมัดจนโกลอฟกิ้นที่หนาๆ มีสะดุ้งตัวงอไปเหมือนกัน แต่พอยก 8 ยก 9 ทาง “ราชาน็อกเอ๊าท์” ชาวคาซักสถานเร่งเครื่องเดินบดซัดอยู่ฝ่ายเดียวจนปลายยก 9 มูระตะโดนขวาตรงจนยืนหันรีหันขวางโดนโกลอฟกิ้นซ้ำไปอีกทีร่วงไปให้กรรมการนับ แต่นับไปไม่ทันไรพี่เลี้ยงเห็นสภาพแล้วโยนผ้ายอมแพ้ เกนนาดี้ โกลอฟกิ้น เพิ่มเข็มขัด “ซูเปอร์แชมป์” ของรุ่นมิดเดิ้ลเวทมาไว้ที่เอวได้อีกเส้น
หลังจบไฟต์นี้มีการคาดกันว่าจะมีการเจรจาเพื่อเปิดศึก “ภาค 3” กับซาอูล อัลวาเรซ กันอีกทีในช่วงเดือนกันยายน โดยที่ทาง “ไอ้หัวขิง” นั้นมีโปรแกรมขึ้นชกในรุ่นไลท์ เฮฟวี่เวท 175 ปอนด์กับ ดมิทรี บิวอล นักชกรัสเซียเชื้อสายคีร์กิซสถาน เพื่อชิงตำแหน่ง “ซูเปอร์แชมป์” ของบิวอลก่อน ในวันที่ 7 พฤษภาคม ตามรอบปกติที่อัลวาเรซจะขึ้นชกในช่วงเทศกาล “ซิงโก้ เดอ มาโย” ซึ่งแม้อัลวาเรซจะทำน้ำหนักขึ้นไปและเสียเปรียบรูปร่างช่วงชกไม่น้อย แต่ฝีไม้ลายมือน่าจะห่างกันหลายขุม และอัลวาเรซเองก็เคยขึ้นไปทุบยอดมวยรุ่นไลท์ เฮฟวี่เวทอย่างเซอร์ไก โควาเลฟ คว้าแชมป์รุ่นนี้ของ WBO มาแล้วแต่ก็สละตำแหน่งทันที เรียกว่าชกเอามันส์ (และเงิน) ชิมลางเฉยๆ ถ้าจะเปิดศึก “ภาค 3” ของนักชกคู่นี้จริงๆ ก็น่าจะเป็นรุ่นซูเปอร์มิดเดิ้ลเวท 168 ปอนด์โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทาง “กาเนโล” นั้นทำน้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างมิดเดิ้ลเวท-ซูเปอร์มิดเดิ้ลเวท-ไลท์ เฮฟวี่เวท ส่วนโกลอฟกิ้นก็ชกน้อยและชกแค่ในรุ่นมิดเดิ้ลเวท คราวนี้ต้องทำน้ำหนักขึ้นไป
นึกๆ แล้วก็แปลก เพราะตอนที่โกลอฟกิ้นฟอร์มสดๆ ทางอัลวาเรซที่ชกรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวทอยู่ ขยับขึ้นมาคว้าแชมป์รุ่นมิดเดิ้ลเวทแล้วก็รีบสละตำแหน่งไปเพื่อ “ซื้อเวลา” ยังไม่ต้องชกกับโกลอฟกิ้น พอ “สามจี” เริ่มโรยอัลวาเรซก็ขยับมายอมเจอกับ “สามจี” และเสมอแบบค้านสายตาไปไฟต์นึง ชนะแบบค้านสายตาไปอีกไฟต์นึง มาตอนนี้ “สามจี” ยิ่งโรยเข้าไปใหญ่แถมต้องเป็นฝ่ายทำน้ำหนักเพิ่มขึ้นไป และดูจากไฟต์กับมูระตะก็จะเห็นว่าโกลอฟกิ้นป้องกันตัวไม่ดี พลังหมัดก็ไม่เด็ดขาดเหมือนเดิมแล้ว แถมโดนหมัดนักชกอย่างมูระตะเข้าลำตัวยังสะดุ้ง เจอผู้เชี่ยวชาญหมัดตัดตับอย่างอัลวาเรซเจ้า “สามจี” จะรอดหรือไม่ต้องติดตาม