คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”
มาวันนี้เจ้าเก่งขันอาสาขับพาคุณชูสง่ากับพี่หมอมากินกาแฟร้านหรูที่สุดร้านหนึ่ง ชื่อใหญ่โตตกแต่งสวยงามจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือร้านกาแฟ ขณะรอสั่งออเดอร์ เฮียชูแอบหวนกลับไปคิดถึงอดีตสมัยเป็นอาตี๋วิ่งซื้อโกปี๊ให้เตี่ย เตี่ยชอบเมนูโกปี๊ใส่นมข้นเอาขมๆหวานๆ เจ๊กชงใส่กระป๋องนมข้นฝาเปิดมีรูตรงกลาง ใช้เชือกกล้วยร้อยหิ้วโยนๆมาถึงบ้านบางทีเหลือครึ่งกระป๋อง!
“เอากาแฟอะไรเฮีย มีเอสเปรสโซ่ คาปูชิโน ลาเต้ อเมริกาโน หรือมอคค่า ดีครับ?” เจ้าเก่งสาธยายอย่างคล่องปาก “กุเอาโอยั๊วแก้วนึง” “อ๋อกาแฟดำ…ได้ใส่น้ำตาลหรือไซรับดีหรือน้ำผึ้งเติมซินนามอนไหม เอากี่ช๊อตดี เหยาะคาราเมลหน่อยก็หอมดีนะ…” อีกนานมั๊ยเนี่ย…งั้นมึงสั่งน้ำแข็งเปล่ามาให้กูกินแก้คอแห้งก่อนดีกว่า” คุณชูสง่าออกอาการเวียนหัว “พี่หมอมาสั่งที”
มารู้จักเมนูกาแฟกัน
1.เอสเปรสโซ่ (Espresso) มาจากภาษาอิตาลี แปลความหมายตรงตัวว่า “กาแฟที่ถูกอัดดันออกมา” เป็นแรงดันจากไอน้ำที่กำลังเดือดให้พุ่งผ่านเมล็ดกาแฟที่คั่วบดละเอียดอย่างแรงและเร็ว จนได้เป็นน้ำกาแฟดำชนิดเข้มข้นแท้ๆที่ไม่ผสมอะไรเพิ่มทั้งสิ้น ทำให้เป็นกลิ่นและรสของกาแฟแท้แบบออริจินัลเลยทีเดียว ดังนั้นจึงเป็นกาแฟที่ใหเพลังงานต่ำ เหมาะกับผู้ที่กำลังไดเอทอยู่ แต่รสชาติที่เข้มข้นมากอาจไม่เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นดื่มกาแฟ
2.Doppio (ดอปปิโอ) มันคือ เอสเปรสโซดับเบิ้ลช๊อต (Espresso Double shot) เหมาะกับคอกาแฟสายฮาร์ดคอร์ ที่ทำให้พวกเขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าจากจำนวนคาเฟอีนที่มากขึ้น จึงไม่เหมาะกับคนคออ่อนเพิ่งเริ่มหัดดื่มกาแฟ เพราะอาจตาค้างไปทั้งคืน เพราะฉะนั้นอย่าหาดื่มดอปปิโอ…ไปลองเมนูอื่นที่ผสมนมก่อนดีกว่า
3.คาปูชิโน (Cappuccino) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี ขอแนะนำกาแฟชนิดนี้กับใครที่เพิ่งเริ่มหัดดื่มกาแฟ หรืออยู่ในระดับปานกลาง เพราะมีรสที่ไม่เข้มข้นมากนัก เป็นกาแฟเอสเปรสโซ่ แต่เพิ่มนมสดและฟองนมเข้ามาเพื่อลดความเข้มข้นลง อาจโรยหน้าด้วยผงชินนาม่อนหรือผงโกโก้เล็กน้อย มักดื่มพร้อมขนมปังบิสกิตหรือคุกกี้ก็ได้ รับรองว่าเป็นมื้อเช้าที่ลงตัวมากๆ
4.Mocca (มอคค่า) เป็นกาแฟรสกลางๆที่หลายคนโปรดปราน ที่จริงมอคค่าเป็นกาแฟอาราบิก้า ที่มีกลิ่นคล้ายโกโก้ ความพิเศษคือกลิ่นและรสชาติคล้ายเป็นกาแฟที่มีส่วนผสมของช็อคโกแลตอยู่ด้วย แต่ปัจจุบันมีการดัดแปลงเอากาแฟเอสเปรสโซ่มาผสมกับโกโก้หรือช็อคโกแลต ทำให้ดื่มง่ายขึ้น ลดความเข้มข้นลงจนเป็นที่ติดอกติดใจของคอกาแฟรุ่นใหม่หลายคน
5.Latte (ลาเต้) เป็นภาษาอิตาลีแปลว่า “นม” เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่ชอบความหวานมัน นุ่มละมุนของฟองนม ดังนั้นเมนูกาแฟลาเต้จึงหมายถึงเครื่องดื่มกาแฟที่เตรียมด้วยนมร้อนและตกแต่งหน้าบนถ้วยกาแฟด้วยฟองนม และนิยมทำลวดลายศิลปะบนฟองนม หรือเรียกว่าลาเต้อาร์ต (Latte Art) กาแฟลาเต้นี้มีรสชาติต่างจากคาปูชิโนตรงที่ลาเต้จะมีการใส่ช๊อตเอสเปรสโซน้อยกว่าลาเต้จึงมีรสชาติที่เข้มและหอมมันกว่ากาแฟอย่างอื่น และอาจจะต้องแลกกับแคลอรี่ที่เยอะกว่า
6.Flat White (แฟลทไวท์) คือกาแฟที่มีต้นกำเนิดจากออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีส่วนผสมของกาแฟและนมสมในปริมาณที่มาก จึงทำให้กาแฟมีสีขาวนวล ผิวกาแฟเคลือบด้วยนมบสงๆ รสชาติไม่ค่อยเข้มข้นมากนัก เหมาะสำหรับคนที่เป็นมือใหม่หัดดื่ม หรือคอกาแฟที่ไม่ต้องการความเข้ม แค่เพียงแต่จิบให้รู้สึกถึงความอุ่น นุ่ม ทานคู่กับคุกกี้รสกาแฟเท่านี้ก็ลงตัวสุดๆ
7.อเมริกาโน (Americano) กาแฟชนิดนี้ได้รับความนิยมจากชาวอเมริกันที่ดื่มเอสเปรสโซ่เพียวๆ แล้วรู้สึกว่าเข้มเกินไป เลยลองเติมน้ำร้อนผสมลงไปเพื่อให้เจือจาง โดยไม่ปรุงแต่งด้วยนม น้ำเชื่อม หรือน้ำตาลใดๆ จึงกลายเป็นได้ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟแท้ๆ จิบปุ๊บตื่นปั๊บ มาพร้อมความสดชื่น เพิ่มพลังงานให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้ดีทีเดียว ที่สำคัญยังคงความเป็นกาแฟที่แคลอรี่ต่ำที่สุดอีกด้วยนะ