ร็อบบี โกลด์ ตัวเตะ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส รักษาสถิติไม่เคยพลาดเป้าเฉพาะเพลย์ออฟ หวดฟิลด์โกล 45 หลา วินาทีสุดท้าย เอาชนะ กรีน เบย์ แพ็คเกอร์ส แบบพลิกล็อก 13-10 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) รอบดิวิชันแนล สายเอ็นเอฟซี (NFC) เกม แซตเทอร์เดย์ ไนท์ วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม
ท่ามกลางสนาม แลมโบ ฟิลด์ ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน โกลด์ เตะฟิลด์โกลดับ แพ็คเกอร์ส ทีมวางอันดับ 1 ของคอนเฟอเรนซ์ และอาจปิดฉากยุคของ แอรอน ร็อดเจอร์ส ควอเตอร์แบ็ก ที่กรีน เบย์
โฟร์ตีไนเนอร์ส ยังคงเป็นตัวแสบของ ร็อดเจอร์ส ช่วงโพสต์ซีซัน เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ สาย NFC รอพบผู้ชนะระหว่าง แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส กับ แอลเอ แรมส์ ซึ่งจะลงเล่นคืนวันอาทิตย์นี้ (23 ม.ค.) ตามเวลาไทย ที่เรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม
ร็อดเจอร์ส สถิติหล่นเหลือ 0-4 ตลอดอาชีพ เฉพาะเกมเจอ โฟร์ตีไนเนอร์ส ช่วงเพลย์ออฟ โดยครั้งล่าสุด ทีมของ ไคล์ ชานาแฮน ชนะ กรีน เบย์ 37-20 รอบชิงแชมป์สาย ฤดูกาล 2019 ก่อนแพ้ แคนซัส ชีฟส์ 20-31 ศึกซูเปอร์โบว์ล 54
แพ็คเกอร์ส ได้รับสิทธิ์บายรอบแรก ซีซันที่ 2 ติดต่อกัน แต่ไม่สามารถฝ่าด่านถึง ซูเปอร์โบว์ล หลังเสีย 10 แต้มรวดแก่ โฟร์ตีไนเนอร์ส ช่วง 5 นาทีสุดท้าย
ซาน ฟรานซิสโก ตีเสมอ 10-10 เหลือเวลา 4 นาที 41 วินาที ด้วยความผิดพลาดของทีมพิเศษ แพ็คเกอร์ส ซึ่งเป็นจุดอ่อนของทีมตลอดซีซันนี้
จอร์แดน วิลลิส เหยียดมือซ้ายบล็อกลูกพันท์ (เตะกินแดน) ของ คอรีย์ โบจอร์เควซ ตรงหน้าเอนด์โซนคู่แข่ง ส่งผลให้ ทาลานัว ฮูฟังกา เก็บบอลวิ่งย้อนทัชดาวน์ 6 หลา
หลังจาก กรีน เบย์ บุก 3 ครั้ง แล้วออกจากสนาม ซาน ฟรานซิสโก ได้บอลบุกตรงเส้น 29 หลาแดนตัวเอง เหลือเวลา 3 นาที 20 วินาที เข้าถึงระยะเตะฟิลด์โกล ด้วยเพลย์วิ่งของ ดีโบ ซามูเอล ปีกนอก วิ่ง 9 หลา เปลี่ยนดาวน์ที่ 3 ต้องการ 8 หลา จากเส้น 38 แดนคู่ต่อสู้ ก่อนปล่อยเวลาเดินไปเรื่อยๆ เพื่อให้ โกลด์ เตรียมพร้อมเตะคะแนนตัดสิน
ทีมบุก กรีน เบย์ แผลงฤทธิ์ไม่ออก นับตั้งแต่การบุกชุดแรก ระยะรวม 69 หลา จบด้วย เอ.เจ. ดิลลอน รันนิงแบ็ก วิ่งทัชดาวน์ 6 หลา ขึ้นนำ 7-0
ส่วนผลการแข่งขันฝั่ง เอเอฟซี (AFC) ซินซินเนติ เบงกอลส์ เข้าชิงสายครั้งแรกรอบ 33 ปี เอาชนะ เทนเนสซี ไตตันส์ ทีมอันดับ หวุดหวิด 19-16 ด้วยฟิลด์โกล 52 หลาของ อีแวน แม็คเฟอร์สัน ตัวเตะรุกกี รอพบ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ รองแชมป์เก่า หรือ บัฟฟาโล บิลล์ส
เพียง 1 สัปดาห์ หลังชนะเพลย์ออฟเกมแรกรอบ 31 ปี เบงกอลส์ ชนะเกมเพลย์ออฟนอกบ้านครั้งแรก หลังพ่ายมา 7 เกม และพ่ายเกม ซูเปอร์โบว์ล ปี 1981 และ 1988
ทีมรับ "เสือลายพาดกลอน" อินเทอร์เซ็ปต์ ไรอัน ทานเนฮิลล์ ควอเตอร์แบ็ก ไตตันส์ 3 ครั้ง นำไปสู่ 2 จาก 4 ฟิลด์โกลของ แม็คเฟอร์สัน และ โลแกน วิลสัน เล่นงาน ทานเนฮิลล์ อีก 1 อินเทอร์เซ็ปต์ ช่วง 20 วินาทีสุดท้าย
ต่อมา โจ เบอร์โรว์ ควอเตอร์แบ็ก เบงกอลส์ ขว้างบอล 19 หลา ให้ จา'มาร์ เชส ปีกนอกรุกกี แล้วเรียกแผนวิ่งอีก 2 เพลย์ เพื่อเตรียมส่ง แม็คเฟอร์สัน เตะฟิลด์โกลเพื่อชัยชนะ
เทนเนสซี ทาบสถิติ NFL 9 แซ็กเฉพาะ 1 เกมเพลย์ออฟ แต่ยังเอาไม่อยู่ โดย เบอร์โรว์ ขว้างได้ระยะ 348 หลา กลายเป็นผู้เล่นดราฟต์เบอร์ 1 คนแรก ซึ่งชนะรอบดิวิชันแนล ช่วง 2 ซีซันแรกของอาชีพ และ โจ มิกซัน รันนิงแบ็ก วิ่ง 1 ทัชดาวน์ของทีม ระยะ 16 หลา ในไดรฟ์การบุกชุดแรกของควอเตอร์ 3
ขณะที่ เดอร์ริค เฮนรี รันนิงแบ็กความหวัง ไตตันส์ ดีกรีผู้เล่นทีมบุกยอดเยี่ยม 2020 คืนสนามหลังพัก 9 เกม เนื่องจากบาดเจ็บเท้า ตะลุย 66 หลา 1 ทัชดาวน์