ทรูวิชั่นส์ คิงออฟสปอร์ต ตอกย้ำการเป็นผู้นำคอนเทนต์กีฬาระดับโลก พร้อมถ่ายทอดโปรแกรมสุดยิ่งใหญ่ของอเมริกันฟุตบอลเริ่มต้นปี 2022 ด้วยการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล รอบเพลย์ออฟเริ่มวันที่16มกราคม (คืนวันที่ 15 มกราคม) ร่วมรับชมการแข่งขันเพลย์ออฟทั้ง 3 รอบ และร่วมลุ้นทีมที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ทาง ทรูวิชั่นส์ ที่เดียว ช่องทรูสปอร์ตเอชดี (666), เอ็นเอฟแอล เน็ทเวิร์ค (672)
การแข่งขันอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล รอบเพลย์ออฟในฤดูกาลนี้ ทางทรูวิชั่นส์ ได้ถ่ายทอดสดให้แฟนๆได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่องแบบสด และเอ็กซ์คลูซีฟ มีทีมที่ร่วมแข่งจำนวน 14 ทีม โดยแบ่งเป็นทีมจากฝั่งเอเอฟซีจำนวน 7 ทีม และทีมจากฝั่งเอ็นเอฟซีจำนวน 7 ทีม โดยทีมที่ได้อันดับที่หนึ่งของจากทั้งฝั่งเอเอฟซี และเอ็นเอฟซี จะไม่ต้องลงแข่งขันในรอบแรก หรือรอบไวด์คาร์ด และไปลงแข่งขันในรอบที่สอง หรือรอบดิวิชั่นนอล เพลย์ออฟทันที ทีมอันดับหนึ่งของแต่ละสายจะได้เล่นเพลย์ออฟในบ้าน ตลอดจนถึงรอบชิงแชมป์สาย
ปีนี้เป็นปีแรกที่โปรแกรมในรอบเพลย์ออฟจะมีการแข่งขันช้ากว่าปีก่อนๆ ประมาณหนึ่งสัปดาห์ สำหรับฤดูกาลนี้เอ็นเอฟแอล เพลย์ออฟรอบแรก หรือรอบไวด์คาร์ด(NFL Wild Card) จะเริ่มในวันที่ 16 – 17 มกราคม 2022 ส่วนรอบที่สองหรือรอบดิวิชั่นนอล เพลย์ออฟ(NFL Divisional) จะเริ่มในวันที่ 23 – 24 มกราคม 2022 และรอบที่สาม หรือรอบชิงแชมป์สาย(AFC & NFC Conference) จะแข่งขันในวันที่ 31 มกราคม 2022 ส่วนรอบที่สี่ หรือรอบชิงชนะเลิศ ศึกซุปเปอร์โบว์ จะแข่งขันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2022
ทางฝั่งเอเอฟซี เทนเนสซี ไททันส์ (ชนะ 12 แพ้ 5) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 1 ของฝั่งเอเอฟซี และอันดับที่ 1 ของกลุ่มเอเอฟซีใต้ ปีนี้แม้ว่าทีมไททันส์จะเสีย เดอร์ริก เฮนรี ผู้เล่นตำแหน่งตัววิ่งที่มีผลงานระดับติดทีมยอดเยี่ยมของลีก (All Pro) ไปในช่วงกลางฤดูกาล และมีช่วงผลงานหลุดไปบางช่วง ในช่วงกลางฤดูกาล แต่ด้วยระบบที่ดีของทีม ทำให้สามารถเก็บชัยชนะได้ 4 เกมจาก 5 เกมหลังสุด และคาดว่าทีมจะได้ เดอร์ริก เฮนรี กลับมาทันรอบดิวิชั่นนอล เพลย์ออฟ แม้ว่าสถิติชนะ และแพ้ในฤดูกาลปกติของทีมไททันส์จะมีผลงานเท่ากับทีมชีฟส์ แต่ทีมไททันส์มีอันดับที่เหนือกว่า เพราะผลงานที่เจอกันในฤดูกาลปกติ ไททันส์เอาชนะชีฟส์ไปได้ ปีนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายๆสำนักมองว่า ไททันส์ มีโอกาสไปถึงรอบชิงแชมป์สาย และสามารถทำผลงานได้ดีกว่าในปีก่อนๆที่พ่ายแพ้พลิกล็อคต่อทีม บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ (ได้ผ่านรอบแรกโดยอัตโนมัติ)
แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ (ชนะ12 แพ้ 5) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 2 ของฝั่งเอเอฟซี และอันดับที่ 1 ของกลุ่มเอเอฟซีตะวันตก ทีมชีฟส์รองแชมป์เก่า แม้ว่าช่วงเปิดฤดูกาลผลงานจะไม่ดี โดย 5 เกมแรกของทีมแพ้ไปถึง 3 เกม ซึ่งปัญหาเกิดจากทีมมีแนวบุกที่มีปัญหา แต่หลังจากเกมที่ 7 เป็นต้นมา ทีมชีฟส์แพ้เพียงเกมเดียวต่อทีมเบงกอลส์ ในสัปดาห์ที่ 17 แม้ผลงานในปีนี้จะเท่ากับทีมไททันส์แต่ผลงานที่เจอกันในเกมที่ 7 ทีมชีฟส์ไปแพ้ต่อทีมไททันส์ ทำให้ผลงานที่เจอกันเป็นรอง (รอบแรกเปิดบ้านพบกับทีมสตีลเลอร์ส)
บัฟฟาโล บิลส์ (ชนะ 11 แพ้ 6) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 3 ของฝั่งเอเอฟซี และอันดับที่ 1 ของกลุ่มเอเอฟซีตะวันออก ทีมบิลส์เข้ารอบเพลย์ออฟเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และปีที่ผ่านมาไปแพ้ทีมชีฟส์ในรอบชิงแชมป์สาย ในฤดูกาลนี้แม้ว่าทีมจะมีช่วงผลงานตกลงไปในช่วงกลางฤดูกาล แต่ทีมสามารถเก็บชัยชนะ 4 นัดรวดจนกลับมาเป็นแชมป์กลุ่มเอเอฟซีตะวันออกได้ (รอบแรกเปิดบ้านพบกับทีมเพเทรียตส์)
ซินซินเนติ เบงกอลส์ (ชนะ 10 แพ้ 7) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 4 ของฝั่งเอเอฟซี และอันดับที่ 1 ของกลุ่มเอเอฟซีเหนือ การได้ดราฟ หรือการคัดเลือกตัวผู้เล่นจากมหาวิทยาลัย โดยทีมเลือก จามาร์ เชส ผู้เล่นที่ถูกคัดเลือกเข้ามาอันดับที่ 5 จากมหาวิทยาลัยหลุยเซียน่า สเตท คือคำตอบที่ทีมต้องการหามานาน โดย เชส เล่นตำแหน่งปีกนอก และเข้ามารับบอลจาก โจ เบอร์โรว์ ผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบ็คของทีมเบงกอลส์ โดยผู้เล่น 2 คนนี้เคยเล่นที่มหาวิทยาลัยหลุยเซียน่า สเตท มาด้วยกันซึ่งทำให้ทีมเบงกอลส์มีจุดเด่นที่ทีมบุก และเป็นทีมบุกที่มีผู้เล่นที่เป็นดาวรุ่ง (รอบแรกเปิดบ้านพบกับทีมเรดเดอร์ส)
ลาสเวกัส เรดเดอร์ส (ชนะ 10 แพ้ 7) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 5 ของฝั่งเอเอฟซี และเป็นทีมที่ไม่ได้เป็นแชมป์กลุ่มที่มีผลงานดีที่สุด ปีนี้ทีมเรดเดอร์สเป็นทีมที่มีปัญหาทั้งแง่ของผู้จัดการทีมที่ถูกปลดเพราะเรื่องอีเมลฉาว และรวมถึงปีกนอกที่ผลงานกำลังดีแต่มีคดีเมาแล้วขับ ช่วงที่ กรูเด้น หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนเก่าถูกปลดออกไปตอนแรกนั้นทีมมีผลงานที่ไม่ดี แต่หลังจากนั้น 4 เกมสุดท้ายของฤดูกาลทีมสามารถเอาชนะได้รวด และเข้าสู่รอบเพลย์ออฟมาได้ ปีนี้ทีมเรดเดอร์สเสียตำนานของทีมคือ จอห์น แมดเดน ที่เป็นตำนานหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม นี่อาจเป็นแรงจูงใจอีกจุดในช่วง 2 เกมสุดท้ายที่ทีมเร่งเครื่องกลับมาเข้ารอบได้ (รอบแรกออกไปเยือนทีมเบงกอลส์)
นิว อิงแลนด์ เพเทรียต์ส (ชนะ 10 แพ้ 7) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 6 ของฝั่งเอเอฟซีแต่อันดับเป็นรองทีมเรดเดอร์สเพราะว่าผลงานเป็นรองเมื่อเจอคู่แข่งที่เหมือนกัน (Common Games เเมื่อพูดถึงทีมเพเทรียตส์ต้องพูดถึงระบบของ บิลล์ เบลิชิค หัวหน้าผู้ฝึกสอนที่เป็นตำนานของลีกปีนี้ ระบบทีมบุกของทีมเพเทรียตส์ได้ มาร์ค โจนส์ ผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบ็คที่พึ่งถูกคัดเลือกมาจากมหาวิทยาลัยในปีแรกมาเป็นตัวจริง ซึ่ง โจนส์ ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม ปีแรกในอาชีพก็พาทีมเข้าสู่รอบเพลย์ออฟได้สำเร็จ ปีนี้ทีมเพเทรียตส์มีผลงานที่สามารถชนะได้ถึง 7 เกมติดต่อกันในช่วงเกมที่ 7 ถึงเกมที่ 13 (รอบแรกไปเยือนทีมบิลส์)
พิตส์เบิร์ก สตีลเลอร์ส (ชนะ 9 แพ้ 7 เสมอ 1) ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของตำนานผู้เล่นของลีกนั่นคือ เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบ็คที่เล่นในลีกมาตั้งแต่ปี 2004 โดยทีมสตีลเลอร์สนั้นตอนแรกผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนมองว่าน่าจะหมดโอกาสเข้ามาสู้รอบเพลย์ออฟแล้ว แต่ว่าช่วง 2 เกมหลังทีมเก็บชัยชนะได้หมด และทีมเรเว่นส์ต้องเจอกับปัญหาผู้เล่นติดโควิด 19 ส่วนทีมบราวน์มีผลงานตกลงอย่างน่าใจหาย ต้องตามดูกันว่าปีสุดท้ายของตำนาน เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ทีมสตีลเลอร์สจะเข้าไปสู้รอบไหน (รอบแรกไปเยือนทีมชีฟส์)
ทางฝั่งเอ็นเอฟซีได้ทีมเข้ารอบ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส (ชนะ 13 แพ้ 4) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 1 ของฝั่งเอ็นเอฟซี และอันดับที่ 1 ของกลุ่มเอ็นเอฟซีเหนือ ทีมแพ็คเกอร์สที่นำทีมโดยซุปเปอร์สตาร์หลักของทีมอย่าง แอรอน ร็อดเจอร์ส ซึ่งมีข่าวว่ามีปัญหากับทีม และต้องการย้ายออกจากทีม แต่สุดท้ายทีมก็สามารถจบในอันดับที่ 1 ของฝั่งเอ็นเอฟซีได้สำเร็จ โดยทีมแพ็คเกอร์สสามารถเอาชนะในบ้านได้ทุกเกมในฤดูกาลปกติและเมื่อเข้าสู่เดือนมกราคมการเล่นในสนามแลมโบว์ ฟิลด์คือสิ่งที่ยากที่สุด เพราะสภาพอากาศที่หนาว โดยทีมแพ็คเกอร์สจะไม่ต้องลงเล่นในรอบแรก และได้เล่นในบ้านตลอดรอบเพลย์ออฟ (ได้ผ่านรอบแรกโดยอัตโนมัติ)
แชมป์เก่าแทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส (ชนะ 13 แพ้ 4) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 2 ของฝั่งเอ็นเอฟซีและอันดับที่ 1 ของกลุ่มเอ็นเอฟซีใต้ แม้ว่าจะมีสถิติเมื่อจบฤดูกาลปกติเท่ากับกรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส แต่ทีมมีผลงานที่เป็นรอง แพ็คเกอร์ส ในการเจอกับทีมฝั่งเอ็นเอฟซี ทอม เบรดี้ ยังเป็นคนที่น่ากลัวเสมอ เพราะประสบการณ์และความสามารถ จำนวนทีมที่แพ้ของบัคคาเนียร์ส 2 จาก 4 เกม คือเกมที่แพ้ต่อทีมเซ้นต์ส และทีมสามารถเอาชนะในบ้านได้ทุกเกมในฤดูกาลปกติ (รอบแรกเปิดบ้านพบกับทีมอีเกิลส์)
ดัลลัส คาวบอยส์ ทีมขวัญใจมหาชน (ชนะ 12 แพ้ 5) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 3 ของฝั่งเอ็นเอฟซี และอันดับที่ 1 ของกลุ่มเอ็นเอฟซีตะวันออก ในฤดูกาลนี้ถือว่ามีทีมที่สมบูรณ์แบบที่สุด มีทีมบุกที่ดีเยี่ยม และทีมรับดีเยี่ยมเช่นกัน ปีนี้คาวบอยส์แพ้ 2 เกมต่อทีมจากฝั่งเอ็นเอฟซี โดยหนึ่งในนั้นคือเกมที่ออกไปเยือนบัคคาเนียร์ส และทั้งสองทีมนี้ อาจมีโอกาสกลับมาเจอกันในรอบที่สองของรอบเพลย์ออฟ (รอบแรกเปิดบ้านพบกับโฟร์ตี้ไนน์เนอร์ส)
ลอส แอนเจลิส แรมส์ (ชนะ 12 แพ้ 5) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 4 ของฝั่งเอ็นเอฟซีและอันดับที่ 1 ของกลุ่มเอ็นเอฟซีตะวันตก ปีนี้การได้ แมทธิว สแตฟฟอร์ท ผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบ็คคือสิ่งที่เข้ามายกระดับทีมอย่างเห็นได้ชัด แต่จุดอ่อนของทีมแรมส์ คือการเจอทีมในระดับเดียวกันมักจะเป็นรอง ตรงนี้จะเป็นจุดที่อยู่ตรงประสบการณ์ของผู้เล่น และการจัดการของทีมในช่วงเวลาวิกฤติ ผลงานของทีมแรมส์ในฤดูกาลปกติแม้ว่าจะมีสถิติเท่ากับทีมคาวบอยส์แต่ว่าทีมแรมส์มีผลงานที่เป็นรองทีมคาวบอยส์ ในการแข่งขันกับทีมฝั่งเอ็นเอฟซี ทำให้ทีมต้องจบด้วยผลงานอันดับที่ 4 ของฝั่งเอ็นเอฟซี (รอบแรกเปิดบ้านพบกับคาร์ดินัลส์)
อาริโซน่า คาร์ดินัลส์(ชนะ 11 แพ้ 6) เข้ามาด้วยผลงานอันดับ 5 ของฝั่งเอ็นเอฟซี และเป็นทีมที่ไม่ได้เป็นแชมป์กลุ่มที่มีผลงานดีที่สุด มีผลงานที่น่าเป็นห่วงเมื่อเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ เพราะว่า 5 เกมหลังสุดแพ้ไปถึง 4 เกมปัญหาหลักเกิดจากทีมขาดปีกนอกระดับซุปเปอร์สตาร์ส นั่นคือ ดิอันเดร ฮอปกินส์ ทำให้ทีมมีทีมบุกที่ตกลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง ฮอปกินส์ คาดว่าจะกลับมาได้ประมาณวันที่ 31 มกราคม ซึ่งตรงกับช่วงรอบชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซี แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับผลงานของทีมว่าจะเข้าไปถึงรอบชิงแชมป์สายได้หรือไม่ (รอบแรกออกไปเยือนทีมแรมส์)
ซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนน์เนอร์ส (ชนะ 10 แพ้ 7) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับ 6 ของฝั่งเอ็นเอฟซี ปีที่ผ่านมา โฟร์ตี้ไนน์เนอร์ส ไม่ได้เข้าเพลย์ออฟ แต่ฤดูกาลนี้ทีมกลับเข้าสู่รอบเพลย์ออฟได้อีกครั้งเพราะว่าการเอาชนะลอส แอนเจลิส แรมส์ในเกมสุดท้าย ปัญหาของทีมคือผลงานของผู้เล่นควอเตอร์แบ็ค จิมมี่ การ็อปโปโล่ ที่หลายๆคนตั้งคำถามกับความไม่คงเส้นคงวา แต่ทีมนี้หากเข้าสู่รอบเพลย์ออฟน่ากลัวเสมอ เพราะเป็นทีมที่มีระบบพื้นฐานที่ดีโดยเฉพาะทีมรับที่แข็งแกร่ง (รอบแรกออกไปเยือนทีมคาวบอยส์)
ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ (ชนะ 9 แพ้ 8) เข้ารอบมาด้วยผลงานอันดับที่ 7 ของฝั่งเอ็นเอฟซีและต้องเล่นนอกบ้านทุกเกม ปีนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายๆสำนักมองว่าทีมอีเกิลส์จะต้องเริ่มตั้งไข่กันใหม่ เพราะทีมเทรดผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบ็คออกจากทีม แต่ทีมสามารถสร้างผลงานที่ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดในช่วงกลางและปลายฤดูกาล ทีมนี้เป็นทีมที่มีแต่ผู้เล่นดาวรุ่ง แต่ต้องให้เครดิตเต็มๆแก่ นิค ซิริอานี หัวหน้าผู้ฝึกสอน ซึ่งปีนี้ก็เป็นปีแรกในการเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเช่นกัน (รอบแรกออกไปเยือนทีมบัคคาเนียร์ส)
สมัคร Platinum HD Package ให้คุณได้ชมครบ ทั้งบนทีวีกับทรูวิชั่นส์ และทรูวิชั่นส์ นาว บนแพลตฟอร์มของทรูไอดี ดูได้ทุกที่ทุกเวลา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3IdxEfp หรือ โทร.02-700 -8000 กด 3
โปรแกรมถ่ายทอดสดอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล รอบเพลย์ออฟประจำปี 2021-2022 ทางช่องทรูสปอร์ตเอชดี (666) / เอ็นเอฟแอล เน็ทเวิร์ค (672) วันที่ 16-18 มกราคม 2022รอบเพลย์ออฟรอบที่หนึ่ง (Wild Card)
วันอาทิตย์ที่ 16ม.ค.ลาสเวกัส เรดเดอร์ส พบกับ ซินซินนาติ เบงกอล์ส04.35 - 08.15
วันอาทิตย์ที่ 16ม.ค.นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ พบกับ บัฟฟาโล บิลส์ 08.30 - 11.30
วันจันทร์ที่ 17ม.ค.ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ พบกับ แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส01.00 - 04.15
วันจันทร์ที่ 17ม.ค.ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนน์เนอร์ส พบกับ ดัลลัส คาวบอยส์04.30-08.00
วันจันทร์ที่ 17ม.ค.พิตส์เบิร์กส์ สตีลเลอร์ส พบกับ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์08.15-11.30
วันอังคารที่ 18 ม.ค.อาริโซน่า คาร์ดินัลส์ พบกับ ลอส แอนเจลิส แรมส์08.15-11.30
23-24 มกราคม 2022รอบเพลย์ออฟรอบที่สอง (Divisional Round)
31 มกราคม 2022รอบเพลย์ออฟรอบที่สาม(Conference Round)