เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 ศาลอาญา รัชดา นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายณฐกร ฉิมพาลี, นายเทิดศักดิ์ ทองกล่ำ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการตัดสินฟุตบอล ฐานเป็นผู้พยายามติดสินบนผู้ตัดสินกีฬา และนายพงศ์พันธ์ วงษ์สุบรรณ อดีตผู้บริหารสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่ง ฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำการติดสินบนผู้ตัดสินกีฬา
จากกรณีเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2561 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน หลังพบว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้ให้, ขอให้ หรือรับว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ นายสุระศักดิ์ หัสจรรย์ จำเลยที่ 2 ซึ่งจะทำหน้าที่ตัดสินการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพรายการไทยลีก 2 (T2) คู่ระหว่าง ทีมสโมสรฟุตบอลสมุทรสาคร เอฟซี กับ ทีมสโมสรฟุตบอลระยอง เอฟซี ซึ่งจะแข่งขันในวันที่ 21 เม.ย. 2561 เวลาประมาณ 19.00 น.ที่ สนามกีฬากลางจ.สมุทรสาคร โดยจะมอบเงินจำนวนเท่าใดไม่ปรากฏชัด เพื่อจูงใจนายสุระศักดิ์ ให้ทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้อง เที่ยงธรรม โดยให้นายสุระศักดิ์ เข้าข้างหรือช่วยเหลือให้ทีมสโมสรฟุตบอลสมุทรสาคร เอฟซี ชนะทีมสโมสรฟุตบอลระยอง เอฟซี อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
การกระทำของจำเลยที่ 1 และ 3 ซึ่งเป็นผู้ใช้ให้จำเลยที่ 2 กระทำความผิด จึงต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการเช่นเดียวกับจำเลยที่ 2 ผู้ถูกใช้ในการกระทำผิด โดยจำเลยทั้งสาม ให้การรับสารภาพ และได้รับการประกันตัว
ศาลพิเคราะห์คำฟ้องแล้ว เห็นว่าจำเลยที่ 1-2 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ 2556 มาตรา 66 จริง ส่วนจำเลยที่ 3 มีความผิดในมาตราเดียวกัน จึงพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 3 คน คนละ 1 ปี ปรับคนละ 200,000 บาท แต่จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุกคนละ 6 เดือน ปรับ 100,000 บาท และเนื่องจากนิสัยและความประพฤติของจำเลย ไม่ปรากฏข้อเสียหายร้ายแรง และไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาส จึงให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี สั่งคุมประพฤติ 1 ปี ให้รายงานตัวทุก 3 เดือน และทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ 24 ชั่วโมง
สำหรับ คดีล้มบอลไทยลีก 2 นี้ เป็นคนละคดีกับคดีล้มบอลไทยลีก 1 ที่มีการแจ้งความจับกุมขบวนการว่าจ้างล้มบอลใน 5 นัดการแข่งขัน ที่มีผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้ตัดสิน 2 คน นักฟุตบอล 8 คน และผู้ว่าจ้างล้มบอลอีก 5 คน เมื่อปี 2560 ที่เมื่อปีที่แล้วศาลมีคำพิพากษาจำคุกไม่รอลงอาญา ผู้อำนวยการสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี กับพวกรวม 5 คน และคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาลอุทธรณ์