xs
xsm
sm
md
lg

ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ น้อคเอ๊าท์ อย่างแฟร์ จึ้งมาก !!! / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

การแข่งขันฟุตบอลโลกทุกๆ 2 ปีตามเอกสารของ สหพันธ์ฟุตบอล ซาอูดี อาราเบีย ที่เสนอให้ทาง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า (Fédération Internationale de Football Association - FIFA) พิจารณาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ก็ใช่ว่า ฟีฟ่า จะโยนทิ้งตะกร้าไปโดยไม่ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้เสียเลย แต่เขาว่ามันจะเป็นการลดคุณค่าความขลังของ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ (FIFA World Cup) สุดยอดทัวร์นาเม้นท์ของกีฬาฟุตบอลที่ 4 ปีมีครั้ง เช่นนั้น ผมก็ขอแทงสวนไปเลยด้วยการนำเสนอ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ น้อคเอ๊าท์ (FIFA World Cup knockout) ก็แล้วกัน

อารแซน เว็งเกอร์ (Arsène Wenger) อดีตผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล (Arsenal FC) ยาวนานที่สุด ชาวฝรั่งเศส วัย 71 ปี ซึ่งในปัจจุบันเขาเป็น ประธานฝ่ายพัฒนากีฬาฟุตบอลของ ฟีฟ่า ก็ได้แสดงความเห็นด้วยอย่างชัดเจน โดยบอกว่า เขาต้องการเห็น ฟุตบอลโลก และ ฟุตบอลยูโร แข่งกันทุกๆ 2 ปีและอยากให้เขี่ยพวกทัวร์นาเม้นท์เห่ยๆทิ้งไปเลย หันมาเน้นรายการที่สำคัญจริงๆ ซึ่งนั่นแหละจะช่วยยกระดับกีฬาฟุตบอล เกมฟุตบอลจะได้รับการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพไปพร้อมๆกับการปรับปรุง กฎ กติกา (Laws of the game) โดยผ่านการแข่งขันที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
โค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เดอะ กันเน่อร์ส (The Gunners) เสนอทางออกให้ยกเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกไปรวมแข่งกันในช่วงปิดการแข่งขันของลีกในประเทศอันเป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้เกมทีมชาติ นั่นคือ ช่วงก่อนเปิดและหลังปิดฤดูกาลประจำปีในเดือนมีนาคมและเดือนตุลาคม และก็ควรมีการแบ่งกลุ่มให้ประกอบด้วยบรรดาชาติที่อยู่ใกล้ๆกัน นักเตะจะได้ไม่ต้องเดินทางไกลบักโกรก หากทำได้อย่างนี้ก็จะเป็นประโยชน์กับสโมสรด้วย อย่างไรก็ตาม กว่าจะเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดนั้นได้ก็ต้องรอหลังปี 2024 โน่น เพราะปฏิทินของ ฟีฟ่า ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว

แม้ว่าจะมีบุคคลในวงการฟุตบอลเห็นดีด้วยกับความคิดนี้หลายคน แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะ อเล็กซานเดอร์ เชเฟริน (Aleksander Čeferin) ประธาน สหสมาคมฟุตบอลยุโรป (Union of European Football Associations - UEFA) วัย 53 ปี ชาวสโลเวเนีย เขากล่าวในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สโมสรยุโรปที่ เมืองเชอแน้ฟ (Genève) ประเทศสวิส เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ต่อหน้าผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมถึง 166 สโมสรว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการจัดแข่ง ฟุตบอลโลก ในทุกๆ 2 ปี เพราะจะทำให้ความขลังที่ตั้งนานจึงจะมีครั้งหนึ่งอันทำให้ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ เป็นสุดยอดทัวร์นาเม้นท์ของกีฬาฟุตบอลที่สำคัญที่สุดในโลกที่ทุกคนรอคอยต้องเสื่อมถอยจืดจางลง

ผมก็ไม่เห็นด้วยที่ทัวร์นาเม้นท์แบบนี้จะเกิดขึ้นถี่ขนาดนั้น แต่อยากนำเสนออีกรูปแบบหนึ่งที่เคยคิดไว้นานแล้วคือ เราน่าจะมี ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ น้อคเอ๊าท์ ในทุก 4 ปีต่างหาก โดยจัดคร่อมกับ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ อันนี้เปรียบเสมือนฟุตบอล น้อคเอ๊าท์ แบบพวก เอ๊ฟ เอ คัพ นั่นแหละ ทีมชาติสมาชิกของ ฟีฟ่า ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวน 211 ชาติจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด โดยแต่ละรอบจัดแข่งระบบ น้อคเอ๊าท์ เหย้า-เยือน จนได้คู่ชิงชนะเลิศไปแข่งกันเกมเดียวในสนามกลาง

การประกบคู่นั้น ก่อนอื่นก็ต้องจัดอันดับทุกทีมตาม ฟีฟ่า เวิร์ลด์ แร้งกิ้ง (FIFA World Rankings) โดยการจัดแข่งขันก็ต้องคำนึงถึง กฎกำลังของ 2 (Power of two) เพื่อที่จะให้ได้จำนวนทีมที่ลงตัวนำมาประกบคู่กันให้ได้ 64 คู่ แล้วแข่งกันจนเหลือทีมชนะ 64 ทีม นำมาประกบคู่กันได้ 32 คู่ แข่งกันจนได้ทีมชนะ 32 ทีม นำมาประกบคู่กันได้ 16 คู่ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนเหลือเพียง 2 ทีมมาเป็นคู่ชิงชนะเลิศ โดยอาจวางทีม 80 อันดับแรกไว้ใน รอบน้อคเอ๊าท์ รอบ 3 และวางทีมอันดับต่อไป 48 ทีมไว้ใน รอบ น้อคเอ๊าท์ รอบ 2 ส่วนอีก 83 ทีมจากท้ายสุดก็นำมาประกบคู่แข่งกันในรอบแรก ซึ่งอาจมีทีมที่ได้ชนะผ่านโดยไม่ต้องแข่งบ้าง เพื่อให้ได้ทีมชนะ 48 ทีมเข้าไปในรอบ 2 ทั้งนี้ การประกบคู่อาจใช้ระบบก้างปลาอย่างในกีฬาเท็นนิส ทำให้ทีมอันดับดีๆแยกย้ายกันไปอยู่ในสายบนสายล่างและได้เจอกับทีมอ่อน ทีมแข็งระดับต้นๆของโลกไม่ต้องมาเจอกันเองก่อนเวลาอันควร

ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ น้อคเอ๊าท์ จะทำให้ทุกทีมทั้ง 211 ชาติสมาชิกของ ฟีฟ่า ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลโลก อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ต้องหัวใจสลายร่วงหล่นหลุดวงโคจรแค่ใน รอบคัดเลือก อยู่ร่ำไป รูปแบบนี้ ทีมมาตรฐานแข่งกันไม่เยอะ แค่ 7 รอบก็ไปถึงแช้มพ์โลก นักเตะไม่โทรมมาก ที่สำคัญ มันเป็นระบบที่แฟร์ แบ่งปันรายได้ให้เจ้าบ้าน และดีต่อหัวใจแฟนบอลทั่วโลกด้วยครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น