คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ เผย องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดา ไฟเขียว ให้ ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามของไทย ที่มหาวิทยาลัยมหิดล กลับมาเปิดใช้งานได้อีกครั้งแล้ว หลังจากดำเนินการปรับปรุงให้ไปเป็นตามมาตรฐานของวาดา ได้เป็นที่เรียบร้อย
จากที่ก่อนหน้านี้ ถูกให้ปิดชั่วคราวไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2019 ยกความสำเร็จ เกิดจากความร่วมมือของทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยมหิดล การกีฬาแห่งประเทศไทย และ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำให้ไทย กลับมาเป็น 1 ใน 30 ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามโลก เป็น 1 ใน 6 แห่งของเอเชีย ได้อีกรอบ
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซีเมมเบอร์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ปฎิบัติหน้าที่ไอโอซี ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้มีโอกาสพบกับ วิโทลด์ บันกา ประธานองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดา และได้มีการติดตามถึงความคืบหน้าในการกลับมาเปิดใช้งานศูนย์ตรวจสารต้องห้ามของไทย ว่าเป็นอย่างไร หลังจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ได้ดำเนินการปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานของวาดา มาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จนล่าสุด ถือเป็นข่าวดี ที่ทาง วาดา ได้อนุญาต ให้ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามของไทย กลับมาเปิดใช้งานได้อย่างเป็นทางการอีกครั้งแล้ว เนื่องจากทุกอย่างกลับอยู่ในมาตรฐานที่ทางวาดา กำหนดไว้เป็นที่เรียบร้อย จากที่ก่อนหน้านี้ ศูนย์ดังกล่าว ถูกให้ปิดชั่วคราว ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2019
ไอโอซีเมมเบอร์หญิงไทย กล่าวต่อว่า สำหรับความสำเร็จครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธันย์ สุภัทรพันธ์ุ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ และรักษาการผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุพรชัย กองพัฒนากูล และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ทาง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการฯ และ นายแพทย์มีชัย อินวู๊ด ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา รวมไปถึง พลเอกประวิตร ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ยังได้มอบหมาย ให้ นายแพทย์วารินทร์ ตัณฑศุภศิริ ประธานฝ่ายแพทย์ ของคณะกรรมการโอลิมปิกฯ มาช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำให้ไทย กลับมาเป็น 1 ใน 30 ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามของโลก เป็น 1 ใน 6 แห่งของเอเชีย ได้อีกรอบ
ทั้งนี้ ทราบจากประธานวาดา ว่า นโยบายของวาดา หลังจากนี้ จะมีแต่ลดจำนวนศูนย์ตรวจสารต้องห้ามโลกในทั่วโลกลง โดยตอนนี้ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามที่กรีซ ได้ถูกยกเลิกถาวร ไปแล้ว ส่วนที่อินเดีย ถูกให้ปิดชั่วคราว ให้รีบดำเนินการปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน ถ้าทำไม่ได้ ก็มีโอกาสที่จะถูกยกเลิกเช่นกัน ส่วน อินโดนีเซีย ตอนนี้ ทางรัฐบาล ส่งเสริมกีฬาอย่างมาก กำลังสร้างศูนย์ตรวจสารต้องห้ามขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดำเนินการสร้างเสร็จ ทางวาดา ก็ต้องเข้าไปตรวจ ต้องให้ทางวาดา รับรองก่อน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
“ดังนั้นการที่ไทย ได้กลับมาเปิดใช้งานศูนย์ตรวจสารต้องห้าม ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีทีเดียว ย่ิงในอนาคต ไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการระดับนานาชาติอีกมากมาย การที่มีศูนย์ตรวจตรวจสารต้องห้ามขึ้นมารองรับ ทำให้ไทย จะได้รับการยอมรับจากทั่วโลกเพิ่มขึ้น และล่าสุด อินโดนีเซีย ก็ส่งตัวอย่างมาให้เราตรวจแล้ว 600 ตัวอย่าง ซึ่งถือเป็นจุดเร่ิมต้นที่น่าพอใจ เพราะตามเกณฑ์ วาดา กำหนดให้ศูนย์แต่ละแห่ง จะต้องตรวจให้ได้ 3,000 ตัวอย่างต่อปี อย่างไรก็ตาม ศูนย์แห่งนี้ อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงาน ด้วยทางวาดา เสนอว่า อยากให้ศูนย์นี้ เหมือนกับทุกแห่งทั่วโลก ที่ทำงานอย่างเป็นกลาง และอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเรื่องนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย รับทราบแล้ว และพร้อมจะดำเนินการตามคำแนะนำของวาดา อย่างเร่งด่วนที่สุด” คุณหญิงปัทมา กล่าวในตอนท้าย