ภายหลังจากการปิดฉากการแข่งขันยิงปืนในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ "โตเกียว 2020" ของนักแม่นปืนไทยที่ได้โควตา 3 คน ได้แก่ ธันยพร พฤกษากร, ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ และอิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ ซึ่งไม่มีใครสามารถทะลุเข้าถึงรอบไฟนอลเพื่อชิงเหรียญได้
อย่างไรก็ตามภายหลังมีรายงานผ่านโลกออนไลน์ว่า พรพักตร์ ภูริหิรัญพัชร์ แม่ของ “กัปตัน” อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย วัย 17 ปี เผยว่าที่ผ่านมาหมดเงินไปนับ 10 ล้านบาท จากการที่ต้องขายบ้าน 2 หลัง และรถที่มี 4 คัน เหลือใช้เพียงแค่คันเดียว เพื่อลงทุนให้บุตรชายเพื่อการฝึกซ้อมว่า
“ก่อนมาแข่งขันนักกีฬา 3 คน รวมถึงน้องกัปตัน ไม่ได้รับการสนับสนุนเรื่องกระสุนปืนจากสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เป็นปัญหาใหญ่กับเรามาโดยตลอด และแม่ต้องหาเงินซื้อกระสุน จ่ายค่าซ้อมให้ลูก ใน 1 วัน จ่าย 3,000 บาท"
"แม่ได้ขายบ้านไป 2 หลัง ในราคาหลังละ 7 ล้าน และ 4 ล้านบาท เพื่อเอามาสนับสนุนเป็นอุปกรณ์กีฬา รวมถึงรถยนต์ด้วย ตอนแรกมี 4 คัน แต่ก็ขายจนเหลือเอาไว้ใช้งานคันเดียว รวมๆก็หมดไปไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท"
นอกจากนี้ยังรวมถึงเงินสำหรับจ้างโค้ช ราล์ฟ ชูมานน์ ชาวเยอรมัน มาช่วยสอนออนไลน์ คิดเป็น 15,000 บาทต่อวัน แต่ก็รู้สึกภูมิใจที่ "กัปตัน" สร้างชื่อในฐานะนักกีฬายิงปืนอายุน้อยที่สุดตั้งแต่เคยมีการแข่งขันโอลิมปิกมา