ดูเหมือนว่าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต เส้นเดียวคงยังไม่พอสำหรับนักชกสายบู๊ขวัญใจชาวไทย "รถถัง จิตรเมืองนนท์" เพราะเจ้าตัวกำลังเดินหน้าล่าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่งอีกเส้นมาประดับเอว พร้อมมองการไกลไปถึงการชิมลางกติกาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ในอนาคต
รถถัง ข้ามสายมาลงแข่งในกติกาคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรกในศึก ONE: FISTS OF FURY เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเจอกับ “ทาเกียร์ คาลิลอฟ” นักสู้แดนหมีขาว แม้จะเป็นครั้งแรกในกติกาใหม่ รถถัง ก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดุเดือดและคว้าชัยมาได้ในที่สุด ซึ่งเป็นเป็นก้าวแรกในการกรุยทางสู่ความฝันในการควบแชมป์โลก ONE สองประเภทกีฬาทั้งมวยไทย และคิกบ็อกซิ่ง
รถถัง เผยว่าตอนนี้มีเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทยในมือแล้ว จึงมุ่งเป้าไปที่การท้าชิงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง โดยอาจได้เจอกับเจ้าของบัลลังก์คนปัจจุบัน "อิเลียส เอ็นนาฮาชิ" หรือจะเป็น "ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9" ผู้ท้าชิงอันดับที่รอจ่อคิวล้างตาหลังศึกดรามาของทั้งคู่ ซึ่งสำหรับ รถถัง จะแล้วเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น
นอกจากความฝันในการข้ามสายไปคิกบ็อกซิ่งแล้ว รถถัง ยังอยากจะท้าทายตัวเองไปลงศึกกติกาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ดูบ้างเหมือนกัน โดยเจ้าตัวแอบไปซุ่มฝึกวิชาใหม่อยู่กับค่ายแฟร์เท็กซ์มาก่อนหน้านี้ โดยเผยว่าเป็นเป้าหมายต่อไปหากคว้าแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งสำเร็จ
“ผมอยากท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งก่อนครับ ตอนนี้ผมอาจจะยังศึกษากติกานี้ไม่มากพอ เพราะผมเพิ่งลงแข่งมาไม่กี่ครั้ง แต่ถ้าผมจะเอาจริง และต้องการไปให้ถึงท้าชิงแชมป์ ผมจะต้องศึกษาวิธีการทำคะแนนให้ดีและโฟกัสไปที่ตรงนั้น”
“ส่วน MMA ผมไม่มีพื้นฐานเลย คงต้องใช้เวลาฝึกฝนและทุ่มเทอย่างหนัก ผมตั้งใจว่าจะคว้าเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งมาให้ได้ก่อน แล้วค่อยโฟกัสด้านนี้ ถ้าทำหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน จะทำให้เราสับสนและเสียสมาธิไปเพราะเราต้องแบ่งเวลาฝึกฝนในแต่ละศาสตร์ เหมือนกับจับปลาหลายมือครับ ถ้าอะไรลงตัวแล้ว ผมก็อยากลอง MMA ดูสักตั้ง ผมก็ไม่รู้ว่าจะรุ่งหรือไม่ แต่ผมอยากลองครับ มีนักมวยไทยไม่กี่คนหรอกที่จะทำเรื่องแบบนี้"
รถถัง จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์การเป็นแชมป์โลก ONE สองบัลลังก์คนแรกในรุ่นฟลายเวต และจะเพิ่มเข็มขัดประดับเอวมากกว่าสองเส้นได้หรือไม่ ต้องติดตามให้กำลังใจกันต่อไป