คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
มาช้ายังดีกว่าไม่มา เมื่อทางสหพันธ์มวยสมัครเล่นนานาชาติ หรือ “ไอบ้า” ภายใต้การนำของประธานชาวรัสเซีย ดร. อูมาร์ เครมเลฟ ที่ได้รับเลือกตั้งไปเมื่อปลายปีที่แล้ว เดินหน้าปฎิรูปและล้างมลทินให้กับองค์กรแห่งนี้ หลังถูก “จัดหนัก” โดยการที่โอลิมปิกดึงมวยสากลสมัครเล่นในกีฬาโอลิมปิก “โตเกียว 2020” ที่จะระเบิดขึ้นไม่กี่วันนี้ไปจัดเอง ตัดไอบ้าไม่ให้มีส่วนร่วมด้วย
ที่ผ่านมาทางไอบ้าก็พยายามแก้ไขสถานการณ์ ด้วยการออกระเบียบเกี่ยวกับความโปร่งใสต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านการเงิน ไล่ใช้หนี้ชาวบ้านที่กู้ยืมมาดำเนินการต่างๆ นานา มากมาย รวมทั้งดำเนินการสอบสวนการดำเนินการต่างๆ ที่ตกเป็นที่ครหาของชาวโลกในช่วงที่ผ่านมา แต่เอาจริงก็ไม่มีผลอะไรออกมามากมาย ขนาดอดีตประธานชาวไต้หวัน ชิง กั๊วะ วู ที่โดนเค้นสอบจนหน้าเขียว ทั้งเรื่องการบริหาร การใช้เงิน และความโปร่งใสต่างๆ สุดท้ายรอดหมดแถมได้รับการยกย่องเป็น “ประธานเกียรติยศ” ตลอดชีพอีกต่างหาก เรียกว่ายังไม่มีอะไรชัดเจนว่าองค์กรแห่งนี้จะก้าวเข้าสู่ “ยุคใหม่” ได้จริงหรือไม่
ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวออกมาว่าทาง “ไอบ้า” ได้ตกลงอนุมัติให้บริษัท “แม็คลาเรน สปอร์ต โซลูชั่น” ของศาสตราจารย์ริชาร์ด แม็คลาเรน ดำเนินการสอบสวนการตัดสินมวยสากลสมัครเล่นในกีฬาโอลิมปิก “ริโอ 2016” ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากถึงความ (ไม่) โปร่งใส ที่ดังสุดๆ ก็คือในรุ่นแบนตั้มเวท เมื่อ “ไอ้นิ้วกลาง” ไมเคิ่ล คอนแลน นักชกไอริช ถูกตัดสินให้พ่ายคะแนนวลาดิเมียร์ นิคิติน นักชกรัสเซียในรอบชิงเหรียญทองแดงแบบค้านสายตาสุดๆ จนคอนแลนยกนิ้วกลางโชว์กลางเวทีเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก ส่วนนักชกรัสเซียผู้ชนะต้องยอมแพ้บายในรอบชิงเหรียญเงินเพราะร่างกายบอบช้ำจนขึ้นชกไม่ไหว ที่สำคัญนักชกรัสเซียรายนี้ก็เอาชนะความหวังของไทยเรา “เจ้าสด” ฉัตรชัยเดชา บุตรดี มาในรอบแรก ซึ่งฝั่งไทยเราก็มองว่า “เจ้าสด” ถูกปล้นชัยชนะไปเหมือนกัน นอกจากนั้นก็มีการตัดสินที่ค้านสายตาอีกหลายไฟต์จนถูกวิจารณ์กระหึ่ม
โดยทาง “แม็คลาเรน สปอร์ต โซลูชั่น” จะดำเนินการสอบสวนใน 2 เฟส คือการเปิดให้มีการให้ข้อมูลทางลับสำหรับผู้ที่กล้ามาให้ข้อมูล รวมทั้งเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องในการตัดสินมวยรายการนั้น และจะสรุปผลภายในเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้นจะเสนอแนวทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดการประพฤติมิชอบในการตัดสินในอนาคต ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่น่าจะมีการลงโทษอะไรย้อนหลังผู้เกี่ยวข้องใดๆ ได้ เพราะไม่น่าจะมีอำนาจเพียงพอ คงได้แต่หาแนวทางป้องกันและแก้ไขในอนาคตเท่านั้น แต่ “แม็คลาเรน สปอร์ต โซลูชั่น” นี่ก็เคยมีผลงานสอบสวนเรื่องการใช้สารกระตุ้นในวงการยกน้ำหนักโลก ที่ไทยเราก็โดนลงโทษแบนมาแล้ว งานนี้อาจเจออะไรให้เราได้เฮก็ได้ แต่สุดท้ายก็อยู่ที “ไอบ้า” อยู่ดี ว่าจะเอาผลการสอบนี้ไปขยายผลหรือทำอะไรต่อหรือเปล่า เอาจริงทาง “ไอบ้า” เองก็เคยดำเนินการสอบการตัดสินใน “ริโอ 2016” มาแล้ว แต่ตอนนั้นสอบเอง แล้วก็บอกว่า “ไม่มีอะไร ทุกอย่างโปร่งใสเป็นที่น่าพอใจ” งานนี้รอดูว่าจะเป็นรายการมวยล้มต้มคนดูอีกหรือเปล่า