เปิดฉากและทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับศึกฟุตบอลยิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 และเป็นธรรมดาสำหรับทัวร์นาเมนต์แบบนี้ที่จะต้องมีนักเตะดาวรุ่งแจ้งเกิดขึ้นมาเขย่าวงการ ดังนั้นลองไปดูกันหน่อยดีกว่าว่า 10 คนจากนี้ใครจะเป็นสตาร์แห่งวงการคนต่อไป
1.จามาล มูเซียลา (เยอรมนี) - ก้าวสู่ชุดใหญ่ บาเยิร์น มิวนิค แบบเต็มตัวฤดูกาล 2020-21 ที่ผ่านมา โดย บุนเดสลีกา ลงเล่นไปถึง 26 นัด ยิงไปทั้งสิ้น 7 ประตูรวมทุกรายการ ถือว่าตัวรุกวัย 18 ปีรายนี้กล้าไม่น้อย เพราะต้องแบกรับความกดดันจากการเมินติดธงทีมชาติอังกฤษตามพ่อที่มีเชื้อสายบริติช-ไนจีเรียน โดยเจ้าตัวเกิดที่สตุ๊ตการ์ทเลยเลือกเล่นให้เยอรมนีตามรอยแม่ ซึ่งอดีตเยาวชน เชลซี ถือเป็นหนึ่งในแข้งที่น่าจับตามองของ "อินทรีเหล็ก" ยุคถ่ายเลือดอย่างแท้จริง
2.เอลิฟ เอลมาส (นอร์ธ มาเซโดเนีย) - ชื่อเสียงและเกียรติประวัติของชาตินี้อาจไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก นอกจากนักเตะอย่าง โกรัน ปานเดฟ ซึ่งปัจจุบันวัย 37 ปีใกล้ปลดระวางเต็มแก่ ซึ่งทายาทของเขาก็คือมิดฟิลด์วัย 21 ปีที่ตอนนี้เล่นให้ นาโปลี มีประสบการณ์เตะ กัลโช เซเรีย อา อิตาลี เกิน 50 นัดไปแล้วถือว่าไม่ธรรมดา ขณะที่ระดับทีมชาติกดไป 7 ประตูจาก 28 นัด ถือว่าอนาคตไกลไม่น้อย หากเล่นได้เตะตาบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่จ้องสอยอยู่แล้ว
3.ดอนเยลล์ มาเลน (เนเธอร์แลนด์ส) - ปีที่แล้วถือว่าพีคสุดขีดกดบนเวที เอเรดิวีซี ลีก ดัตช์ ไปถึง 19 ประตู ทำให้ทัพ "อัศวินสีส้ม" ไม่อาจปฎิเสธกองหน้าจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ในการเลือกมาเป็นหนึ่งในขุนพลเลือดใหม่ อดีตเคยเป็นแข้งเยาวชน อาร์เซนอล แต่ปล่อยหลุดมือมา ปัญหาเดียวคือต้องย้ายออกจากลีกบ้านเกิดเพื่อพิสูจน์ฝีเท้าว่าเป็นของจริง
4.เฌเรมี โดกู (เบลเยียม) - "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" กลายเป็นชาติเบอร์ 1 ของโลกและปัจจุบันแทบไม่เคยขาดแข้งฝีเท้าดี โดกู กองหน้าจาก แรนส์ วัยเพียง 19 ปีก็เป็นหนึ่งในทรัพยากรที่น่าจับตามอง ระดับทีมชาติชุดใหญ่ยิงไปแล้ว 2 ประตูจาก 8 นัดจุดเด่นก็คือความเร็วอันจัดจ้าน
5.จู๊ด เบลลิงแฮม (อังกฤษ) - บอกปัดสโมสรยักษ์ใหญ่ของ พรีเมียร์ ลีก หลายต่อหลายทีมด้วยการเลือกย้ายจาก เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเป็นผลดีได้รับโอกาสลงสนามต่อเนื่องฤดูกาลที่ผ่านมาเตะไป 26 นัดบนเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน รวมถึงได้เตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เรียกได้ว่ามิดฟิลด์วัยแค่ 17 ปีรายนี้ประสบการณ์เกินอายุจริงๆ โดยถือเป็นหนึ่งในเด็กสร้างของ แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษที่เลือกเข้ามาปลุกปั้นในยุคนี้
6.เปดรี (สเปน) - ตอนนี้ทั้งสโมสร บาร์เซโลน่า กับทีมชาติสเปน อยู่ในยุคถ่ายเลือดทำให้มีแข้งดาวรุ่งมากหน้าหลายตาก้าวขึ้นมาแต่ใครจะอยู่รอดยืนระยะได้ต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ โดยมิดฟิลด์วัย 18 ปีรายนี้ได้รับการจับตามองไม่น้อยเล่นตำแหน่งกองกลางทั้งรับและรุกเปี่ยมไปด้วยทักษะ
7.อเล็กซานเดอร์ ไอแซค (สวีเดน) - การที่ซุปตาร์อย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไม่ได้มาเล่น ยูโร 2020 ก็ถือเป็นโอกาสดีสำหรับดาวรุ่ง โดยเฉพาะกองหน้าวัย 18 ปีจาก เรอัล โซเซียดัด ที่ปีที่แล้วยิงไป 17 ประตูจาก 34 นัดบนเวที ลา ลีกา สเปน ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว จุดเด่นก็คือรูปร่างที่สูงถึง 192 เซนติเมตรเหลือสร้างกล้ามเนื้ออีกน่าจะอันตรายขึ้นเป็นกอง
8.บิลลี กิลมัวร์ (สกอตแลนด์) - นักเตะวัยเพียง 20 ปีเป็นหนึ่งในขุนพล เชลซี ชุดแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา ถือเป็นกองกลางอนาคตน่าจะได้รับโอกาสขึ้นตามลำดับ จุดเด่นคือคุมจังหวะและอ่านเกมได้อย่างโดดเด่น เหลือแค่เก็บประสบการณ์ก็น่าจะไปได้อีกไกล
9.นูโน เมนเดส (โปรตุเกส) - ถือเป็นตัวละครลับในตำแหน่งแบ็กซ้ายของทีมชาติโปรตุเกสเด่นทั้งรุกและรับปีที่แล้วก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ให้กับ สปอร์ติง ลิสบอน แบบเต็มตัว แม้ว่าจะวัยแค่ 18 ปีแต่ไม่ต้องแปลกใจหากจะได้รับโอกาสให้ลงเล่น เพราะทัพ "ฝอยทอง" นั้นอยู่ กรุ๊ป ออฟ เดธ ยูโร 2020 จำเป็นต้องใช้ความสดกล้าได้กล้าเสียของดาวรุ่งเข้ามาช่วยด้วย
10. ออร์คุน ก็อกคู (ตุรกี) - ตัวรุกวัย 20 ปีถือเป็นแกนหลักของ ตุรกี ยุคนี้เคียงข้าง 3 แข้งจาก ลีลล์ อย่าง บูรัค ยิลมาส, เซกี เซลิก และ ยูซุฟ ยาซิซี โดยทรงบอลของกองกลาง เฟเยนูร์ด คนนี้คล้ายกับอดีตที่ทัพ "ไก่งวง" เคยมี เอ็มเร่ เบโลโซกลู สไตล์ก็คือนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยทักษะ