แชมป์ลีกเอิงของ "ลีลล์" ที่อะคาเดมี่ "เปแอสเช" ช่วยออกแบบชนิดไม่ตั้งใจ

ควันหลงฉลองแชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาล 2020-21 ของ ลีลล์ ยังไม่ทันจาง ท่ามกลางความคลางแคลงของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ว่าพวกเขาวืดแชมป์ลีกปีนี้ได้อย่างไร โดยถูกเฉือนไปเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ เปแอสเช คือแชมป์ ลีก เอิง 7 สมัยรอบ 8 ปีหลังสุด มีเพียง โมนาโก เท่านั้นที่มากเบรกได้ในฤดูกาล 2016–17 จนทำให้เสน่ห์การแข่งขันลีกประเทศน้ำหอมนั้นลดความน่าสนใจไปมากพอสมควร ซึ่งทั้ง 7 ครั้งที่ว่านั้นเกิดขึ้น หลังจากกลุ่มกาตาร์หอบเงินเข้ามาเทกโอเวอร์ถิ่น ปาร์ก เดอส์ แปรงส์ เมื่อปี 2011 เป็นต้นมา


สำหรับปีนี้นั้นแชมป์ตกเป็นของ ลีลล์ สโมสรที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส อีกทั้งย้อนไปฤดูกาล 2017-18 เกือบจะตกชั้น โดยจบอันดับ 17 เหนือโซนแดงแค่แต้มเดียว ซึ่งก็ต้องขอบคุณแรงฮึดในช่วงบั้นปลายที่ชนะ 3 จาก 4 นัดสุดท้าย

แม้นี่ไม่ใช่แชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรของ ลีลล์ แต่หนนี้จะเรียกว่าเป็นเทพนิยายก็ว่าได้ เพราะประกอบขึ้นด้วยปัจจัยมากมาย โดยปีนี้ถือเป็นสมัยที่ 4 และเป็นครั้งแรกรอบ 10 ปี ก่อนหน้านี้แชมป์ลีก 3 หนคือฤดูกาล 1945–46, 1953–54 และ 2010–11


ที่บอกว่าเหลือเชื่อก็เพราะ ลีลล์ มีมูลค่านักเตะ 147 ล้านยูโรเทียบกับ เปแอสเช ที่มีทั้ง เนย์มาร์ กับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ นั้นคือ 640 ล้านยูโร นอกจากนี้งบทำทีมปีนี้ของ ลีลล์ คิดเป็นไม่ถึง 1 ใน 4 ของ เปแอสเช ด้วยซ้ำ อีกทั้งตอนกลางฤดูกาล ลีลล์ เกือบจะโดนเทกโอเวอร์เปลี่ยนมือเจ้าของไปแล้ว

อย่างแรกเลยต้องบอกว่าความสำเร็จปีนี้ของ ลีลล์ อะคาเดมี่ของ เปแอสเช มีส่วนร่วมด้วย แม้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการออกแบบด้วยความตั้งใจ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ เพราะมีนักเตะเข้ามาแกนหลักหลายต่อหลายคนเลยทีเดียว


ที่เอ่ยเช่นนี้จะบอกว่า เปแอสเช ต้องตำหนิตัวเองก็พูดไม่เป็นปาก เพราะทีมเงินหนาขนาดนี้ต้องการความสำเร็จแบบด่วนจี๋เลยจำเป็นต้องใช้เงินซื้อนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ ดังนั้นจะให้มาอดทนรอเรียกใช้บริการนักเตะดันขึ้นมาจากชุดเล็กก็กระไรอยู่

เริ่มที่ ไมค์ แมญ็อง ผู้รักษาประตูวัย 25 ปี เคยเป็นเด็กเยาวชนของ เปแอสเช ระหว่างปี 2009–2015 ก่อนย้ายมา ลีลล์ ซึ่งหลังจากได้แชมป์ เอซี มิลาน ก็มาสอยไปแล้วเซ็นสัญญายาว 5 ปีคาดว่าจะไปแทน จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เสียด้วย สำหรับ แมฌ็อง คือคีย์แมนสุดๆ เลยก็ว่าได้ลงเล่นครบ 38 นัดในลีกทีมเสียไปน้อยที่สุดคือ 23 ประตู


คนที่ 2 คือ บูบาการี ซูมาเร กองกลางวัย 22 ปี คนนี้กำลังเนื้อหอมพัวพันกับ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยเคยเป็นเด็กปั้นของ เปแอสเช ระหว่างปี 2011–2017 คนที่ 3 โจนาธาน อิโคเน่ มิดฟิลด์วัย 23 ปีอดีตสมบัติของ เปแอสเช ระหว่างปี 2010–2016

คนสุดท้ายที่คุ้นกันดีคือ ทิโมธีย์ เวอาห์ ลูกชายของ จอร์จ เวอาห์ อดีตกองหน้าระดับโลกของ เอซี มิลาน ตอนแรกก็คาดว่าจะรุ่งกับ เปแอสเช เนื่องจากผู้เป็นพ่อเคยสร้างชื่อให้ทีมนี้ด้วย แต่ถูกโละในปี 2019 ปัจจุบันวัย 21 ปีและเลือกติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาชุดใหญ่ไปแล้ว


โดยนักเตะ เปแอสเช เริ่มไหลออกหอบผ้าหอบผ่อนออกจากถิ่น ปาร์ก เดอส์ แปรงส์ ก็เพราะไม่ได้สัญญาอาชีพ ไม่ได้ขึ้นชุดใหญ่ หรือไม่มีแม้กระทั่งค่าธรรมเนียม เนื่องจากทีมต้องปล่อยเคลียร์พื้นที่และเปิดโควต้าไว้ลงทะเบยนให้แข้งที่จะซื้อเข้ามา

นอกจากนี้หัวใจแนวรับคือ โชเซ่ ฟอนเต้ อดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟที่โลดแล่นบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ กับ เซาธ์แฮมป์ตัน, คริสตัล พาเลซ และ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ปัจจุบันวัย 37 ปีแล้ว คงใกล้แขวนสตั๊ดแล้วแชมป์ ลีก เอิง นี้ก็เป็นการปิดฉากอย่างสวยงาม


กองหน้ากดไป 16 ประตูในลีกคือ บูรัค ยิลมาซ วัย 35 ปี เคยเล่นที่จีน 2 ปีกับ ปักกิ่ง กั๋วอัน ถูกดึงมาแทน โลอิค เรมีย์ ไม่ใช่แค่ผลงานที่ ยิลมาซ มอบให้ทีม แต่รวมถึงประสบการณ์ที่ประคองและมอบให้รุ่นน้องอย่าง โจนาธาน เดวิด หอกแคนาดาวัย 21 ปีที่ยิงในลีกไป 13 ประตู โดยถูกดึงมาแทน วิคตอร์ โอซิมเฮน ที่ย้ายไป นาโปลี ก่อนที่จะคลิกลงล็อกสุดๆ ที่ฝรั่งเศส

ขนาดทีมของ ลีลล์ ที่คว้าแชมป์ปีล่าสุดนี้คือใช้บริการนักเตะ 21 คน ซึ่งถือว่าน้อยกว่าทุกทีม นอกจากนี้ยังผ่านเข้าถึงรอบน็อกเอาท์หรือ 32 ทีมสุดท้ายใน ยูโรปา ลีก อีกด้วย ดังนั้นต้องชมกุนซืออย่าง คริสตอฟ กาลติเยร์ ที่บริหารทีมได้อย่างชาญฉลาดจริงๆ


สำหรับ กาลติเยร์ เคยคุมแค่ แซงต์ เอเตียนน์ ทีมเดียวเท่านั้น ก่อนที่จะมาทำงานที่ ลีลล์ ซึ่งภายหลังจาก 2 วันที่ได้แชมป์เจ้าตัวก็ประกาศลาออกทันที ซึ่งเส้นทางของกุนซือวัย 54 ปีคนนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

สมัยเป็นนักเตะนั้น กาลติเยร์ เคยค้ำกองหลังให้ โอลิมปิก มาร์กเซย์ พอแขวนสตั๊ดก็เริ่มงานผู้ช่วย อแล็ง แปแร็ง ที่ พอร์ทสมัธ, โอลิมปิก ลียง และ แซงต์ เอเตียนน์ พอ แปแร็ง ถูกไล่ออกโอกาสก็มาถึง กาลติเยร์ ได้ขึ้นกุมบังเหียนแทน

ผลงานของ กาลติเยร์ คือปั้น ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมยอง กองหน้ากาบอง ตอนอยู่ที่ แซงต์ เอเตียนน์ ระหว่างปี 2011–2013 ภายใต้งบประมาณที่จำกัด จากนั้นปี 2017 ก็เข้ามาคุม ลีลล์ ที่ตอนนั้นย่ำแย่เหลือเกินรับงานต่อจาก มาร์เซโล บิเอลซ่า

เชื่อเหลือเกินว่า ลีลล์ จะต้องคิดถึงชายที่ชื่อ กาลติเยร์ อย่างแน่นอน เพราะหลังเข้ามาเดือนธันวาคมในปี 2017 ฤดูกาล 2018-19 ทีมได้ที่ 2 ตามด้วย 2019-2020 ตัดจบเพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ที่ 4 ก่อนที่จะมาเป็นแชมป์ในปีนี้อย่างที่ต้องยกนิ้วให้เหลือเกิน ซึ่งไม่แน่กุนซือมีฝีมือขนาดนี้อายุยังไม่เยอะรับรองหลายทีมรุมจีบประเคนงานให้จากนี้แน่นอน