"ทนายกระดูกเหล็ก" อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความคนดัง เผยเหตุผลที่ตัดสินใจช่วย "เก๋" อัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ และ "น้องมีตังค์" เพื่อเรียกร้องค่าเลี้ยงดูบุตรจาก บัวขาว หรือ สมบัติ บัญชาเมฆ ยอดมวยไทยคนดัง เป็นมูลค่า 25 ล้านบาท
โดยมีการเปิดเผยผ่านแฟนเพจ "ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช" ว่า จากการที่ผมได้เป็นทนายความให้กับคุณอัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ หรือคุณเก๋ ภรรยาของคุณบัวขาว เพื่อเรียกร้องขอให้คุณบัวขาว รับรองบุตร ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร จำนวน 25 ล้านบาท และให้อำนาจปกครองบุตรเด็กหญิงพิมพ์ญาดา บัญชาเมฆ หรือน้องมีตังค์ อยู่กับคุณเก๋ ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั้งประเทศ
ต่อมาเกิดดราม่า เรื่องเงินค่าอุปการะเลี้ยงดู 25 ล้าน, และมีการให้ข่าวว่า “ได้ส่งเสียเลี้ยงดูมาโดยตลอด ให้เงินไปตั้ง 20 ล้านแล้วยังไม่พอ จะมาเรียกร้องเอาไรอีก และบอกว่าทำไมไม่ไปเอากับผัวเก่าคุณเก๋ “ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชี่ยลเป็นวงกว้าง มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะที่ไม่เห็นด้วยได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในทางลบมากมาย บางคนถึงกับด่าทอผมและคุณเก๋ ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายไม่สามารถรับได้ และมีแฟนคลับผม และไม่ใช้แฟนคลับผมต่างออกเตือนด้วยความหวังดี การทำคดีนี้ทำให้ผมเสียชื่อเสียง ! ขอบพระคุณสำหรับคำเตือน
ผม ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้ฉายาจากสื่อมวลชนว่าเป็น “ ทนายกระดูกเหล็ก “ ขอเรียนชี้แจงจากใจว่า ชื่อเสียงของผมไม่เสียหรอกครับ ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะสิ่งที่ผมทำไปคือความจริง ความถูกต้อง และเป็นธรรม การที่ผมรับทำคดีนี้ ผมพิจารณาจากพยานหลักฐาน และวิเคราะห์แล้ว เห็นว่า เป็นเรื่องจริง ถูกต้อง และเพื่อความเป็นธรรม และเป็นการช่วยเหลือผู้หญิง 2 คนแม่ลูกที่ถูกทอดทิ้งและอยู่กันเพียงลำพัง ดังนั้นเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ทั้ง 2 คน ผมจึงรับเป็นทนายให้ เป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ที่ผมได้ช่วยเหลือผู้หญิง 2 คนแม่ลูก สิ่งที่ผมทำ ถึงคนที่เห็นต่างเห็นว่าไม่ถูก แต่เทวดาฟ้าดินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็เห็นว่าสิ่งที่ผมทำผิดหรือถูก ?
ส่วนที่ผมและคุณเก๋ ฟ้องเป็นคดีอาญาเพราะ ในเมื่อคุณมาละเมิดสิทธิผมและคุณเก๋ ด่าผมและคุณเก๋ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย โดยที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน การด่าผมและคุณเก๋เป็นสิ่งที่ไม่ถูกทั้งศีลธรรม(ผิดศีลข้อ4)และกฎหมาย(ผิด ป.อาญา มาตรา 326,328) ผมจึงต้องป้องกันสิทธิของผมและคุณเก๋
สำหรับผม ชื่อเสียงเป็นเพียงของสมมุติ ตายไปพาก็ไปไม่ได้ ความดี และความชั่ว ปาบบุญคุณโทษ เท่านั้นที่จะตามไป และจะถูกชดใช้อย่างสาสมในโลกหลังความตาย ผมไม่เคยยึดติดในชื่อเสียงลาภยศสรรเสริญ ถึงผมจะเป็นคนชั่วในสายตาคนปาบ ผมไม่เสีย แต่ขอให้ผมเป็นคนดีในสายตาคนดีมีศีลธรรม ผมก็ดีใจแล้วครับ
เพราะฉะนั้น การที่ผมได้ช่วยเหลือ 2 คนแม่ลูกนี้ ถือว่าผมได้ช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก และจะช่วยจนถึงที่สุดจนสุดความสามารถ ชื่อเสียงเกียรติยศอันจอมปลอมจึงไม่มีความสำคัญกับผมแต่อย่างใดเลยครับ จากใจจริง
💖จากใจทนายกระดูกเหล็ก 💖
# ทำไมต้องกลัวเสียชื่อเสียง !
...โพสต์โดย ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม 2021