ชาตรี ปลื้ม 'ดิ แอปเพรนทิส’ เรตติ้งกระฉูด จัดเต็มทั้งนักกีฬา-นักธุรกิจดังเข้าร่วม

บอสใหญ่ วัน แชมเปียนชิพ การันตีความดัง “ดิ แอปเพรนทิส : วัน แชมเปียนชิพ อิดิชัน” พร้อมเผยได้รับการตอบรับดีในประเทศไทย ที่รับชมการออกอากาศตอนแรก คาดการณ์ตัวเลขผู้ชมมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยตอนที่สองที่ออกอากาศไปแล้ว ได้นักกีฬาระดับตำนาน ร่วมกับผู้แข่งขันในการฝ่าฟันภารกิจสุดโหด รวมถึงนักธุรกิจดังแห่งยุคเข้าร่วม เชื่อว่าจะเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงเรตติ้งผู้ชมให้สูงยิ่งขึ้นไป

ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานและซีอีโอ วัน แชมเปียนชิพ เปิดเผยว่า สำหรับการออกอากาศในประเทศไทย ได้รับผลตอบรับค่อนข้างสูง หลังจากส่งเรียลลิตี้ตอนที่หนึ่งออกไป และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยความน่าสนใจของเรียลลิตี้ตอนที่สองที่ออกอากาศไปแล้วคือ การนำนักกีฬาระดับตำนาน ทั้ง จอร์จ เซนต์ ปิแอร์ และ เรนโซ เกรซี เป็นผู้นำให้กับผู้เข้าแข่งขันในการฝ่าฟันบททดสอบความแข็งแกร่งทางร่างกายบนสกายวอร์ค เกาะเซนโตซา ประเทศสิงคโปร์ รวมถึงนักธุรกิจดังแห่งยุค แพทริก โกรฟ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Catcha Group มาร่วมตัดสิน เชื่อว่ามีผลต่อยอดผู้ชมทั้งแฟนกีฬาและธุรกิจที่เพิ่มขึ้นแน่นอน

ทั้งนี้ “ดิ แอปเพรนทิส : วัน แชมเปียนชิพ อิดิชัน” ที่ออกอากาศตอนที่ 2 ในประเทศไทย ในวันพุธที่ 31 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา มีทั้งด่านทดสอบความท้าทายทางร่างกายของผู้แข่งขัน ที่ต้องโรยตัวลงมาจาก สกายวอร์คบนเกาะเซนโตซา ประเทศสิงคโปร์ ที่มีความสูงเท่ากับตึก 11 ชั้นและไต่กลับขึ้นไปอย่างรวดเร็วด้วยบันไดลิง ทีมที่ชนะได้แก่ ทีมวาเลอร์ ได้รับรางวัลเป็นปาร์ตี้ฉลองชัยชนะที่บาร์สแควร์ และได้รับแต้มต่อสำหรับการแข่งขันภารกิจทางธุรกิจครั้งต่อไป

ส่วนภารกิจการแข่งขันด้านธุรกิจ ทั้งสองทีมต้องสร้างสรรค์แคมเปญโซเชียลมีเดียที่ดึงดูดความสนใจเป็นเวลา 7 วัน โดยเลือกอินฟลูเอนเซอร์ดัง ช่วยโปรโมท โดยมีนายชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานและซีอีโอ วัน แชมเปียนชิพ และนิฮาริกา ซิงห์ ที่ปรึกษา และแพทริก โกรฟ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Catcha Group เป็นกรรมการพิจารณาผลงานของผู้แข่งขันทั้งสองทีม โดยทีมวาเลอร์คว้าชัยชนะการทดสอบทางธุรกิจอีกครั้ง โดยมีผู้เข้าแข่งขัน 2 คนที่ถูกคัดออกจากการแข่งขัน ได้แก่ โรมัน วิลสัน และอัลวิน อัง

สำหรับตอนต่อไปของ “ดิ แอปเพรนทิส : วัน แชมเปียนชิพ อิดิชัน” ยังคงเข้มข้น สนุกสนานและโหดหินเพิ่มขึ้น แฟนชาวไทย ติดตามได้ทุกวันพุธ ทางช่องอมรินทร์ทีวี HD 34 เวลา 22:30 น. (หลังรายการทุบโต๊ะข่าว) และทาง LINE TV เวลา 00:30 น.