เวย์น รูนีย์ ศูนย์หน้าระดับตำนาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แขวนสตั๊ดเรียบร้อยแล้ว หลังรับงานคุม ดาร์บี เคาน์ตี สโมสรระดับ เดอะ แชมเปียนชิป แบบถาวร จรดปากกาเซ็นสัญญา 2 ปีครึ่ง
อดีตดาวยิงดีกรีทีมชาติอังกฤษ ทำหน้าที่กุนซือ "เดอะ แรมส์" แบบขัดตาทัพ นับตั้งแต่ ฟิลลิป โคคู เทรนเนอร์ชาวดัตช์ อำลาตำแหน่ง เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ผลผลิตจากอคาเดมี เอฟเวอร์ตัน กล่าว "ตอนผมกลับมา สหราชอาณาจักร ผมรู้สึกประทับใจศักยภาพของ ดาร์บี เคาน์ตี ทั้งสนามแข่ง, สนามซ้อม, สตาฟฟ์, นักเตะเยาวชน และแน่นอนแฟนๆ ที่ยังภักดีและคอยให้กำลังใจมาตลอด"
"ถึงแม้มีข้อเสนออื่นๆ เข้ามา ผมรู้โดยสัญชาตญาณว่า ดาร์บีฯ คืย บ้านสำหรับผม การได้รับโอกาสเดินตามรอย ไบรอัน คลัฟ, จิม สมิธ, แฟรงค์ แลมพาร์ด และ ฟิลลิป โคคู นับเป็นเกียรติอย่างสูง"
"ผมขอสัญญาต่อทุกคนว่าที่มีส่วนร่วมกับสโมสร, กองเชียร์ และสตาฟฟ์ ผมจะทำงานสุดความสามารถ เพื่อรีดศักยภาพที่ผมเห็นมาตลอด 12 เดือนที่ผ่านมาของสโมสรอันเก่าแก่แห่งนี้"
รูนีย์ ควบตำแหน่งผู้เล่น-โค้ช นับตั้งแต่ย้ายจาก ดีซี ยูไนเต็ด สโมสรของ เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ (MLS) กำกับการซ้อมร่วมกับ เชย์ กิฟเวน, เลียม โรซีเนียร์ และ จัสติน วอล์คเกอร์
จอมถล่มประตูวัย 35 ปี เริ่มต้นอาชีพจากเด็กฝึกหัด "ทอฟฟีสีน้ำเงิน" สร้างสถิติยิงประตูเกม พรีเมียร์ ลีก อายุน้อยสุด 16 ปี พบ อาร์เซนอล เดือนตุลาคม 2002
"รูน" ย้ายซบ แมนฯ ยูไนเต็ด ค่าตัว 27 ล้านปอนด์ (ราว 1.08 พันล้านบาท) กลายเป็นนักเตะวัยรุ่นแพงสุดของโลก ค้าแข้งถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด 13 ปี กวาดแชมป์ พรีเมียร์ ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 4 สมัย และ ยูโรปา ลีก กับ แชมเปียนส์ ลีก อย่างละ 1 สมัย
รูนีย์ กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ "ปิศาจแดง" ซัดประตูที่ 250 เกมเสมอ สโต๊ก ซิตี 1-1 (รวม 253 ประตู) เมื่อปี 2017 ก่อนคืนสู่ถิ่น กูดิสัน ปาร์ก นาน 18 เดือน และ ดีซี ยูไนเต็ด 2 ซีซัน แล้วกลับมาร่วมทัพ ดาร์บีฯ ปี 2019
รูนีย์ รีไทร์จากการรับใช้ชาติ ปี 2018 ในฐานะดาวยิงสูงสุดของ "สิงโตคำราม" 53 ประตู จาก 120 นัด และลงเล่น ฟุตบอลโลก 3 สมัย
